นายบุรณิน รัตนสมบัติ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่วางแผน บมจ.ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก (OR) หรือโออาร์ เปิดเผยว่า โออาร์ยังมองโอกาสการขยายลงทุนในต่างประเทศต่อเนื่อง เน้นในภูมิภาคประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) และจีน รวมถึงประเทศที่เป็นยุทธศาสตร์เพื่อสร้างการรับรู้ของแบรนด์ และยังเป็นโอกาสที่จะผลักดันสินค้าชุมชนเข้าสู่ตลาดต่างประเทศ ช่วยสร้างเศรษฐกิจฐานรากให้แข็งแกร่ง ขณะที่การเข้าไปลงทุนจะเปิดกว้างหาพันธมิตรท้องถิ่น หรือพันธมิตรในไทยเข้าไปร่วมดำเนินการเพื่อสร้างความแข็งแรงและความยั่งยืนทางธุรกิจ
ณ สิ้นเดือนมิ.ย.62 โออาร์มีสถานีบริการน้ำมัน PTT Station ใน 3 ประเทศ ได้แก่ กัมพูชา ลาว และฟิลิปปินส์ รวมกัน 281 แห่ง และ ณ สิ้นส.ค.62 มีร้านกาแฟ คาเฟ่ อเมซอน 222 แห่ง ใน 9 ประเทศ ได้แก่ จีน มาเลเซีย สิงคโปร์ ลาว กัมพูชา เมียนมา ฟิลิปปินส์ ญี่ปุ่น และโอมาน ขณะที่ร้านสะดวกซื้อ จิฟฟี่ 77 แห่ง ใน ลาวและกัมพูชา รวมถึงมีธุรกิจให้บริการเติมน้ำมันอากาศยานในสนามบินหลัก 3 แห่งในกัมพูชา และจัดหาน้ำมันอากาศยานให้กับบริษัทในลาว เป็นต้น
ล่าสุดร่วมกับกลุ่มบริษัท คันบาวซา จำกัด ซึ่งเป็นกลุ่มบริษัทเอกชนขนาดใหญ่ที่สุดของประเทศเมียนมา เพื่อร่วมทำโครงการธุรกิจคลังและค้าส่งปิโตรเลียม และโครงการธุรกิจสถานีบริการน้ำมันและค้าปลีก โดยขณะนี้ทางการเมียนมา อนุมัติจัดตั้งบริษัทร่วมทุนเพื่อโครงการธุรกิจคลังและค้าส่งปิโตรเลียมแล้ว และอยู่ระหว่างก่อสร้างใช้เวลากว่า 1 ปีจะดำเนินการเสร็จ และอยู่ระหว่างรออนุมัติจัดตั้งบริษัทร่วมทุนธุรกิจสถานีบริการน้ำมันและค้าปลีก ซึ่งหากได้รับอนุมัติ ก็จะเริ่มดำเนินการก่อสร้างสถานีบริการน้ำมัน คาดว่าจะใช้เวลา 4-6 เดือน ทำให้คาดว่าจะเห็นสถานีบริการน้ำมันแห่งแรกของ PTT Station ในต้นปีหน้าหรือไม่เกินไตรมาส 2/63
"concept ของโออาร์เราไม่ได้จะเดินและทำคนเดียวตลอดเวลา เพราะการที่ร่วมกันแล้วทำให้ทุกคนแข็งแรงขึ้น ดีขึ้น เป็นกลยุทธ์ที่ถูกต้องมากกว่าการเติบโตคนเดียว ถ้าจะหาพันธมิตร ก็อาจจะเป็นทั้งคนไทยและท้องถิ่น ถ้าเราเห็นว่าสามารถทำความเข้าใจกันได้ ตกลงกันได้ก็ไปด้วยกันได้...นอนออยล์ต่างประเทศ ไม่ได้หมายถึงว่าจะไปทุกประเทศ แต่ไปในประเทศที่เป็นยุทธศาสตร์ของเรา เช่น AEC จีน เป็นยุทธศาสตร์ หรือบางที่เป็นเรื่องการรับรู้เรื่องแบรนด์ อย่างสิงคโปร์ ที่มีความเป็น international และทำให้คนผ่านไปผ่านมารู้จักโออาร์"นายบุรณิน กล่าว
นายบุรณิน กล่าวอีกว่า การลงทุนในเมียนมาจะเน้นการจำหน่ายน้ำมันผ่านสถานีบริการน้ำมัน และมีธุรกิจนอนออยล์เข้าไปเสริม ส่วนการก่อสร้างคลังปิโตรเลียมนั้น จะสร้างคลังน้ำมันเพื่อรองรับการกระจายน้ำมันสู่สถานีบริการและดูแลคุณภาพน้ำมันได้ง่ายขึ้น รวมถึงจะมีการสร้างคลังก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) เพื่อกระจาย LPG ออกสู่ตลาดในเมียนมา โดยรูปแบบการดำเนินธุรกิจในเมียนมาจะคล้ายคลึงกับโมเดลทางธุรกิจในกัมพูชา ลาว และฟิลิปปินส์ ที่มีคลังน้ำมันและสถานีบริการน้ำมันรองรับ โดยโครงการจะตั้งอยู่ในเมืองย่างกุ้ง ซึ่งสามารถกระจายน้ำมันได้ครอบคลุมเกือบทั้งเมียนมา
ส่วนการลงทุนในจีนนั้น ได้จัดตั้งบริษัทย่อย โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อดำเนินธุรกิจน้ำมันหล่อลื่น และเปิดร้านกาแฟ คาเฟ่ อเมซอน โดยเมื่อเดือนก.ย.ที่ผ่านมา ได้เปิดร้านกาแฟ คาเฟ่ อเมซอน เป็นแห่งแรก ในสถานีบริการน้ำมัน ซิโนเปค เมืองหนานหนิง มณฑลกว่างซี ซึ่งถือเป็นประตูเชื่อมระหว่างอาเซียนกับจีน ซึ่งการเปิดร้านดังกล่าว ยังสามารถนำผลิตภัณฑ์ชุมชนจากไทย เข้าไปเป็นส่วนผสมในเครื่องดื่มด้วย นับเป็นการช่วยส่งเสริมสินค้าของไทยออกไปสู่ตลาดโลกด้วย
สำหรับร้านกาแฟ คาเฟ่ อเมซอน นับว่าประสบความสำเร็จอย่างมากในการจำหน่ายที่กัมพูชา ซึ่งปัจจุบันมีมากกว่า 100 แห่ง เนื่องจากส่วนหนึ่งกัมพูชาเป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจเติบโตต่อเนื่อง มีความแข็งแรง รวมถึงความมีเสถียรภาพของค่าเงิน ขณะเดียวกันโออาร์ก็ยังอยู่ระหว่างศึกษาโอกาสการเข้าไปลงทุนในเวียดนาม ทั้งร้านกาแฟ คาเฟ่ อเมซอน และสถานีบริการน้ำมัน แต่ขณะนี้รัฐบาลเวียดนามยังไม่เปิดโอกาสให้บริษัทต่างชาติเข้าไปลงทุนสถานีบริการน้ำมัน ซึ่งการจะเข้าไปลงทุนในต่างประเทศนั้น จะพิจารณาอย่างรอบคอบและต้องสอดรับกับกลยุทธ์การเติบโตของบริษัทด้วย