นายนาวิน อินทรสมบัติ รองกรรมการผู้จัดการ สายงานจัดการลงทุนต่างประเทศ บลจ.กสิกรไทย เปิดเผยว่า ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา บลจ.กสิกรไทย ได้เปิดเสนอขายกองบอนด์น้องใหม่สไตล์ Term Fund ‘กองทุนเปิดเค ฟิกซ์เดท เอเซียน บอนด์ 2022A (KAB22A)’ ซึ่งมีผู้ลงทุนเป็นจำนวนมากให้ความสนใจ และตอบรับกันอย่างท่วมท้น โดยกองทุนสามารถระดมทุนได้สูงถึง 3,440 ล้านบาท (ข้อมูล ณ วันที่ 18 ต.ค. 62) ส่งผลให้กองทุนมียอดจอดซื้อเข้ามาเต็มจำนวนเงินทุนของโครงการและปิดการเสนอขายได้ก่อนระยะเวลาที่กำหนด ขณะที่เตรียมที่จะเปิดเสนอขายกองที่ 2 ในเร็ว ๆ นี้ต่อไป
สำหรับสาเหตุที่กองทุน KAB22A ได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้ลงทุน เป็นเพราะผู้ลงทุนส่วนใหญ่กำลังมองหาทางเลือกการลงทุนที่น่าสนใจ เพื่อกระจายความเสี่ยงจากภาวะตลาดที่ผันผวน แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่เป็นขาลง รวมถึงความกังวลต่อการจัดเก็บภาษีกองทุนตราสารหนี้ ซึ่งกองทุน KAB22A สามารถตอบโจทย์ผู้ลงทุนกลุ่มนี้ได้ดี ด้วยการชูจุดเด่นกระจายการลงทุนในตราสารหนี้ต่างประเทศโดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชีย โดยมองว่าเอเชียยังมีปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง บริษัทเอกชนมีแนวโน้มของกำไรสูง รวมถึงตราสารหนี้เอเชียมีความสามารถในการชำระหนี้สูง นอกจากนี้ กองทุน KAB22A ยังลงทุนผ่านกองทุนหลักต่างประเทศ (Feeder Fund) ทำให้ผู้ลงทุนไม่ต้องเสียภาษีกองทุนตราสารหนี้ในอัตรา 15% อีกด้วย
"กองทุน KAB22A ถือเป็นอีก 1 ตัวอย่างที่ทาง บลจ.กสิกรไทย พยายามสรรหากองทุนทางเลือกในยามที่เศรษฐกิจทั่วโลกชะลอตัว เพื่อช่วยให้ผู้ลงทุนมีโอกาสได้รับผลตอบแทนทุกไตรมาสผ่านนโยบายการรับซื้อคืนอัตโนมัติ (Auto-Redemption) ทั้งนี้ คาดว่า บลจ.กสิกรไทย เตรียมเปิดเสนอขายกองที่ 2 เร็วๆ นี้"นายนาวิน กล่าว
นายนาวิน กล่าวว่า กองทุนรูปแบบนี้ เหมาะสำหรับผู้ลงทุนที่สนใจการลงทุนแบบมีกำหนดอายุโครงการ ลักษณะเช่นเดียวกับกองทุน Term Fund โดยเพิ่มโอกาสรับผลตอบแทนที่มากขึ้น และสามารถรับความเสี่ยงจากการกระจายลงทุนในตราสารหนี้ต่างประเทศได้ ทั้งนี้ เมื่อกองทุนครบกำหนดอายุโครงการ บริษัทจัดการจะนำเงินค่าขายคืนอัตโนมัติไปซื้อหน่วยลงทุนของกองทุนใดกองทุนหนึ่งใน 3 กองทุน ได้แก่ กองทุนเปิดเค ตลาดเงิน (K-MONEY) กองทุนเปิดเค ตราสารรัฐระยะสั้น (K-TREASURY) หรือกองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ระยะสั้น (K-SF) ของบลจ.กสิกรไทย เพื่อโอกาสรับผลตอบแทนอย่างต่อเนื่อง