น.ส.วิไลลักษณ์ สกุลภักดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.โปรเฟสชันแนล เวสต์ เทคโนโลยี (1999) (PRO) เปิดเผยว่า บริษัทจะประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2562 ในวันที่ 24 ต.ค.62 เพื่อขออนุมัติแผนการลดมูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) เพื่อล้างขาดทุนสะสมตามมติที่คณะกรรมการบริษัท
ทั้งนี้ บริษัทจะลดทุนจดทะเบียนจาก 1,470,000,000 บาท เป็น 1,417,564,545.60 บาท และเปลี่ยนแปลงราคาพาร์จากเดิม 0.70 บาท เป็น 4.20 บาท ทำให้จำนวนหุ้นลดลงจากเดิม 2,025,092,208 หุ้น เป็น 337,515,368 บาท โดยการลดมูลค่าพาร์จาก 4.20 บาท เป็น 1 บาท เพื่อล้างส่วนต่ำมูลค่าหุ้นและล้างผลขาดทุนสะสมที่ปัจจุบันมีอยู่ 772.25 ล้านบาท
น.ส.วิไลลักษณ์ กล่าวว่า บริษัทคาดว่าจะได้รับการอนุมัติจากผู้ถือหุ้น เนื่องจากแผนการลดพาร์เพื่อล้างขาดทุนสะสมจะสร้างประโยชน์ให้ผู้ถือหุ้นทุกรายอย่างเท่าเทียมกัน และจะช่วยให้บริษัทสามารถกลับมาจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นเป็นครั้งแรกในรอบหลายปี โดยจะพิจารณาจากงบการเงินในปี 63 ซึ่งนโยบายการจ่ายเงินปันผลของบริษัทจะอยู่ที่ไม่เกิน 60% ของกำไรหลังหักภาษี
พร้อมกันนี้ หากได้รับการอนุมัติจากผู้ถือหุ้นในเรื่องดังกล่าว จะทำให้ผลขาดทุนสะสมของบริษัทฯ ลดลงเหลือ 19 ล้านบาท ซึ่งบริษัทก็มีแผนนำกำไรจากการดำเนินงานในปีนี้มาล้างขาดทุนสะสมที่เหลือได้ทั้งหมดภายในสิ้นปีนี้ โดยในครึ่งปีแรกที่ผ่านมา บริษัทมีกำไรสุทธิ 20.33 ล้านบาท และคาดว่าในครึ่งปีหลังนี้ผลการดำเนินงานน่าจะเติบโตดีกว่าครึ่งปีแรก จากการหันมารับงานประมูลมากขึ้น ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาก็ได้เข้าไปรับงานบำบัดขยะให้กับกลุ่มอุตสาหกรรมพลังงาน มูลค่ารวมกว่า 600 ล้านบาท คาดว่าจะส่งผลทำให้รายได้ในปีนี้เติบโตเป็น 300 ล้านบาท จากครึ่งปีแรกอยู่ที่ 148.82 ล้านบาท และกำไรสุทธิก็น่าจะเติบโตไปตามรายได้ที่เพิ่มขึ้น
นอกจากนี้ บริษัทยังตั้งเป้าหมายรายได้ในปี 63 จะเติบโตไม่ต่ำกว่า 20% จากปีนี้ เนื่องจากภาครัฐได้ให้การสนับสนุนเกี่ยวกับการกำจัดขยะที่มีมาตรฐานมากขึ้น และยังได้รับประโยชน์จากกลุ่มอุตสาหกรรมใน EEC อีกด้วย โดยปัจจุบันบริษัทมีสัดส่วนลูกค้าจากกลุ่มโรงงานผลิตประมาณ 60% ,พลังงาน 20% และโรงหมึกพิมพ์ 20%
แผนการดำเนินงานในปีหน้า บริษัทยังคงเข้าประมูลงาน เสนอราคา หรือร่วมกับพันธมิตรในการเข้ารับงานอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในครึ่งปีแรกก็มีแผนเข้ารับงานบำบัดขยะในกลุ่มอุตสาหกรรมน้ำมัน 3-4 ราย รวมถึงยังคงมองหาช่องทางในการเสริมรายได้อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจ เช่น เตาเผาขยะ, การผลิตเชื้อเพลิงขยะ (RDF) เป็นต้น
ด้านนางปิยะภา จงเสถียร กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอส 14 แอดไวเซอรี่ จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน (FA) ของ PROกล่าวว่า กระบวนการหลังดำเนินการล้างขาดทุนสะสมของ PRO แล้วเสร็จ ก็จะยื่นขอกลับเข้าทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในไตรมาส 1/63 หรือประมาณเดือน มี.ค.63 หลังปิดงบการเงินปี 62 หลังจากนั้นก็ต้องรอให้สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ตรวจสอบงบการเงิน โดยน่าจะกลับมาเทรดได้ในช่วงกลางปี 63 หรือไตรมาส 3/63
หลังจาก PRO กลับมาซื้อขายได้ตามปกติแล้ว ก็คาดจะได้รับความสนใจจากนักลงทุน เนื่องจากผลการดำเนินงาน (performance) ปรับตัวดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และยังเป็นหุ้นสิ่งแวดล้อมที่ในขณะนี้ทั่วโลกกำลังให้ความสนใจกับกระแสการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอย่างมาก ก็น่าจะช่วยตอบโจทย์แก่นักลงทุนได้ เห็นได้จากในช่วงที่ตลาดหลักทรัพย์เปิดการซื้อขายหุ้นชั่วคราววันที่ 1-31 ก.ค.ที่ผ่านมา ราคาหุ้นของบริษัทถือว่าปรับตัวเพิ่มขึ้น และมีกลุ่มนักลงทุนต่างชาติเข้ามาซื้อหุ้นเพิ่มอีกประมาณ 7 ราย รวมที่มีอยู่คือ UOB KAY HIAN PRIVATE LIMITED เป็น 8 ราย โดยสัดส่วนถือหุ้นของนักลงทุนต่างชาติปัจจุบันมีอยู่ประมาณ 8%