นายปกรณ์ มาลากุล ณ อยุธยา ประธานกรรมการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการขยายฐานผู้ลงทุนเปิดเผยว่า คณะอนุกรรมการฯ มีความเห็นว่า การเพิ่มสินค้าที่น่าสนใจจะเป็นแรงดึงดูดสำคัญที่จะทำให้มีการเข้ามาลงทุนมากขึ้น และจะต้องมีการกำหนดยุทธศาสตร์เชิงรุกที่เหมาะสมกับผู้ลงทุนแต่ละกลุ่ม
เนื่องจาก มองว่า การเพิ่มผู้ลงทุนสถาบันในประเทศ เช่น กองทุนรวม กองทุนประกันสังคม เงินลงทุนของกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) และบริษัทประกันภัยเป็นเรื่องสำคัญ เพราะเป็นกลุ่มที่มีความรู้ความเข้าใจในหลักการลงทุนเป็นอย่างดี ซึ่งจะมีส่วนในการสร้างเสถียรภาพของราคาหลักทรัพย์ โดยจากสัดส่วนการซื้อขายเฉลี่ยในปัจจุบันประมาณร้อยละ 11 - 17 ถือว่ายังไม่เพียงพอ ดังนั้น ควรมี การพิจารณาสร้างแรงจูงใจที่จะทำให้ผู้ลงทุนสถาบันกลุ่มนี้เข้ามาลงทุนในตลาด
ทุนไทยเพิ่มมากขึ้น
ส่วนกลุ่มผู้ลงทุนต่างประเทศนั้น จะต้องมีการให้ข้อมูลอย่างสม่ำเสมอ อาทิ การไปโรดโชว์ เป็นต้น สำหรับกลุ่มผู้ลงทุนบุคคลนั้น ถึงแม้จะมีกิจกรรมทางการตลาดเพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดอยู่แล้ว ยังคงต้องขยายไปยังกลุ่มผู้ที่มีศักยภาพในการลงทุนในวงกว้าง ตัวอย่างเช่น สมาชิกของกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ซึ่งหากมีการสร้างความเข้าใจ พร้อมจัดโครงการ Employees' choice เพื่อนำเสนอทางเลือกในการลงทุนที่เข้าใจง่าย และสอดคล้องกับความต้องการก็จะมีส่วนเพิ่มความสนใจให้เข้ามาลงทุนในตลาดทุนมากยิ่งขึ้น
--อินโฟเควสท์ โดย สารภี สายะเวส/รัชดา/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--