นายคณฆัส จิรเสวีนุประพันธ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและบริการการลงทุน บล.โนมูระ พัฒนสิน กล่าวว่า แนวโน้มการเคลื่อนไหวของดัชนีหุ้นไทยเช้านี้จะแกว่งตัวในกรอบแคบ แต่มีโอกาสดีดตัวขึ้นได้ระหว่างวัน จากราคาน้ำมันที่ปรับขึ้นต่อเนื่องในช่วงนี้ น่าจะช่วยผลักดันการลงทุนหุ้นกลุ่มพลังงานให้สามารถประคองตลาดได้ รวมถึงการกลับมาซื้อของนักลงทุนต่างชาติกว่า 2.8 พันล้านบาทเมื่อวานนี้ ก็จะเป็นส่วนช่วยให้ตลาดมี Downside ที่จำกัด แม้ว่าสถาบันในประเทศจะยังคงมีแรงขายออกมามากก็ตาม
นอกจากนี้ยังคาดว่าแรงขายหุ้นกลุ่มแบงก์ที่ออกมามากเมื่อวานนี้ หลังจากที่ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) เปิดเผยเป้าหมายทางการเงินปี 63 ที่ยังมีแนวโน้มอ่อนแอนั้น แม้เชื่อว่าแรงขายอาจยังมีต่อเนื่องแต่จะไม่มากเหมือนวานนี้ ทำให้ภาพกลุ่มแบงก์น่าจะยังเป็นลักษณะซึมตัวลงอยู่ แต่มี Downside ที่ลดลงในระยะสั้น
ขณะที่ภาพรวมการลงทุนจะยังคงเป็นการเลือกลงทุนรายกลุ่ม หรือรายตัว อย่างเมื่อวานนี้นอกจากแรงซื้อหุ้นในกลุ่มไฟฟ้าแล้ว ก็ยังมีแรงซื้อกลุ่มโรงพยาบาล และกลุ่มเช่าซื้อเข้ามาด้วย แต่ก็ไม่ได้ส่งผลต่อภาพรวมของดัชนีมากนัก แต่หากวันนี้หุ้นกลุ่มพลังงานขยับขึ้นมาด้วยก็น่าจะช่วยประคองตลาดได้ดี
อย่างไรก็ตามนักลงทุนยังรอดูปัจจัยจากต่างประเทศต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วงนี้เป็นฤดูการประกาศผลประกอบการไตรมาส 3/62 ของทั้งในยุโรปและสหรัฐ รวมถึงยังต้องติดตามความคืบหน้าการแยกตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) และการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในสัปดาห์หน้า ส่วนการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) เมื่อวานนี้ก็คงอัตราดอกเบี้ย พร้อมกับย้ำจะรื้อฟื้นโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ในเดือนพ.ย.
พร้อมให้แนวรับที่ 1,615 และ 1,607 จุด ส่วนแนวต้าน อยู่ที่ 1,630 และ 1,633 จุด