บมจ. อีเทอร์นิตี้ แกรนด์ โลจิสติคส์ (ETG) มีมติเอกฉันท์ให้จัดสรรกำไรปี 2550 โดยจ่ายเป็นเงินปันผลจำนวน 0.11 บาทต่อหุ้น และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 20 พฤษภาคม 2551
พร้อมทั้งมีมติอนุมัติการเพิ่มทุนของบริษัทอีกจำนวน 25,000,000 บาท จากทุนจดทะเบียนเดิม ในปัจจุบัน 115,000,000 บาท รวมเป็นทุนจดทะเบียนใหม่ จำนวน 140,000,000 บาท โดยออกหุ้นสามัญใหม่ จำนวน 25,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้ หุ้นละ 1 บาท
โดยให้จัดสรรหุ้นสามัญใหม่ทั้งหมดให้กับบุคคลในวงจำกัด (Private Placement)
นอกจากนี้ มีมติอนุมัติให้บริษัทเข้าซื้อหุ้นสามัญเดิมของบริษัท แพนดส์ กรุ๊ป โลจิสติกส์ จำกัด (PANDS)ในสัดส่วนร้อยละ 70.00 ของทุนที่ออกและชำระแล้ว มูลค่ารวม 38.50 ล้านบาท เพื่อขยายธุรกิจโดยเพิ่มฐานลูกค้าและประเภทบริการเพื่อเพิ่มรายได้และกำไรให้สูงขึ้น และเพิ่มศักยภาพการแข่งขันในอนาคต
สำหรับแหล่งเงินทุนที่ใช้ในการซื้อสินทรัพย์ มาจากเงินทุนหมุนเวียน และเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน
ETG ยังเปิดเผยว่า จะเข้าลงทุนสิทธิการบริหารท่าเทียบเรือบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อดำเนินการบริหารและให้บริการในท่าเรือ ได้แก่ บริการท่าเทียบเรือเพื่อการรับและขนถ่ายสินค้า บริการขนถ่ายสินค้าขึ้นลงเรือ บริการชั่งน้ำหนัก บริการบรรจุสินค้า และบริการให้เช่าคลังสินค้า เป็นต้น เป็นระยะเวลา 6 ปี โดย ETG จะจ่ายค่าตอบแทนการบริหารท่าเทียบเรือในระยะเวลา 6 ปี รวมทั้งสิ้นประมาณ 20.60 ล้านบาท แหล่งเงินทุนที่ใช้ในการซื้อสินทรัพย์มาจากเงินที่ได้จากการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัท และเงินทุนหมุนเวียนภายในบริษัท(สำหรับค่าตอบแทนรายเดือน)
รวมทั้งเข้าร่วมลงทุนในบริษัทที่จัดตั้งขึ้นใหม่ เพื่อดำเนินธุรกิจด้านถ่านหิน ในสัดส่วนการถือหุ้นร้อยละ 20 ของทุนจดทะเบียน 100 ล้านบาท คิดเป็นมูลค่ารวม 20 ล้านบาท ผลประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับคือ เป็นการขยายการลงทุน, เพิ่มปริมาณการขนส่งสินค้าถ่านหิน เพื่อเพิ่มรายได้และกำไรให้สูงขึ้น และเพิ่มศักยภาพการแข่งขันในอนาคต แหล่งเงินทุนที่ใช้ในการซื้อสินทรัพย์เงินที่ได้จากการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัท
นอกจากนั้น บริษัทย่อยยังจะลงทุนก่อสร้างคลังสินค้าใหม่มูลค่ารวมประมาณ 40 ล้านบาท เพื่อทำให้สินทรัพย์ที่ใช้ในการดำเนินธุรกิจเพิ่มขึ้น รายได้และกำไรเพิ่มขึ้น และยังเป็นการเพิ่มศักยภาพการแข่งขันในอนาคต แหล่งเงินทุนที่ใช้ในการซื้อสินทรัพย์มาจากเงินทุนของ ETG ที่ได้จากการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุน โดยคาดว่าคลังสินค้าใหม่จะก่อสร้างแล้วเสร็จในไตรมาสที่ 1 ปี 2552 และจะเริ่มรับรู้รายได้ในไตรมาสที่ 2 ปี 2552
--อินโฟเควสท์ โดย นิศารัตน์ วิเชียรศรี/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--