THAI เร่งสำรวจตลาดคลอดโครงข่ายการบินมใหม่ปรับแผนจัดหาเครื่องบิน/มั่นใจปีนี้ cabin factor เกิน 80%

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday October 25, 2019 18:15 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายสุเมธ ดำรงชัยธรรม กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.การบินไทย (THAI) เปิดเผยว่า บริษัทอยู่ระหว่างการจัดทำแผนจัดหาเครื่องบินใหม่ หลังจากที่นายถาวร เสนเนียม รมช.คมนาคม ให้เวลาทบทวน 6 เดือน ซึ่งบริษัทได้กลับมาจัดทำแผนการตลาดและแผนธุรกิจใหม่ทั้งหมด เพราะต้องยอมรับว่าตลาดเปลี่ยนแปลงไปมากในช่วง 5 ปีนี้ โดยจะใช้เครื่องมือวิเคราะห์ พร้อมทั้งสำรวจตลาดใหม่ โดยใช้ทั้ง 82 สถานีขายทั่วโลกลงไปพิจารณารายละเอียดของจุดบินในแต่ละเมืองและแต่ละเที่ยวบิน เพื่อออกแบบโครงข่ายการบินใหม่

"จะพิจารณาเส้นทางไหนสู้ได้ หรือไม่ได้ หากเป็นเส้นที่ขาดทุนแล้ว ก็ไม่ใช่ว่าจะต้องตัดทิ้งอย่างเดียว เพราะบางเส้นทางเป็นจุดเชื่อมต่อกับเส้นทางอื่น หรืออาจจะพิจารณาให้สายการบินไทยสมายล์มาทำการตลาดแทนได้หรือไม่ แต่หากเส้นทางที่ดีอยู่แล้ว ก็ต้องทำให้ดีกว่าเดิม" นายสุเมธ กล่าว

พร้อมระบุว่า THAI จะต้องศึกษาข้อมูลให้ชัดเจน สำรวจตลาด จัดทำออกมาเป็นแผนงาน จึงจะทราบแน่ชัดเพื่อออกแบบความต้องการเครื่องบิน รวมทั้งเครื่องบินที่จะปลดระวาง ทั้งนี้จะต้องมีกลยุทธ์การแข่งขัน กลยุทธ์การเติบโตด้วย

"หากการทบทวนการจัดหาเครื่องบิน 38 ลำ มูลค่า 1.56 แสนล้านบาท เพื่อตอบโจทย์ตลาดที่เปลี่ยนไป และมีการปรับจำนวนเครื่องรวมทั้งแบบว่าจะใช้เครื่องบินลำตัวกว้าง และลำตัวแคบ เปลี่ยนแปลงอย่างไร หากต้องจะปรับเปลี่ยน ก็ต้องให้สภาพัฒน์ พิจารณาใหม่ ซึ่งยอมรับว่าเกิดความล่าช้า แต่การกลับมาพิจารณาให้ถี่ถ้วนจะส่งผลดีต่อบริษัทมากกว่า"กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ THAI ระบุ

นอกจากนี้ การทบทวนดังกล่าวยังรวมถึงแผนการเช่าเครื่องบินที่จะนำมาใช้ในระยะสั้นช่วงที่สั่งซื้อเครื่องบิน แต่ในขณะนี้คาดว่าจะไม่สามารถเช่าได้ทันไตรมาส 4/62 เนื่องจากต้องใช้เวลา 4-5 เดือนกว่าจะนำเครื่องเข้ามาให้บริการได้ ซึ่งจะตรงกับช่วง Low season ดังนั้นจึงไม่เหมาะ

นายสุเมธ กล่าวด้วยว่า สำหรับแผนธุรกิจในปี 63 นั้น เตรียมจะนำเสนอคณะกรรมการบริษัทในเดือน พ.ย.นี้. และจะต้องเป็นแผนที่จับต้องได้

"เราจะคิดแบบเดิมไม่ได้ ถ้าสู้แบบเดิม ก็จบแบบเดิม...ยืนยันว่าเครื่องบินเป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการหาผลประกอบการ ดังนั้นการซื้อหรือการจัดหาต้องรอบคอบ วันนี้เราอยู่ในธุรกิจการบินที่มีการแข่งขันรุนแรง นายสุเมธ กล่าว

กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ THAI คาดว่าในปี 62 จะมีอัตราส่วนบรรทุกผู้โดยสาร (Cabin Factor) เฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 80% โดยในไตรมาส 4/62 แนวโน้มธุรกิจค่อนข้างดี โดยเฉพาะจุดบินใหม่ที่เมืองเซนไดของญี่ปุ่น ที่จะเริ่มทำการบินในวันที่ 29 ต.ค.นี้ สามารถทำกำไรได้ โดยมียอดจองไปจนถึงเดือน มี.ค.63 (Booking) มากกว่า 80% แล้ว ทำให้มีแนวคิดจะนำเซนไดโมเดลมายกระดับในการแข่งขันในญี่ปุ่น หากทำสำเร็จตลาดญี่ปุ่นจะกลับมาอยู่ในจุดที่แข่งขันได้ โดยการเปิดจุดบินเซนไดมีค่าใช้จ่ายโฆษณาน้อยกว่าเส้นทางบินอื่น เพราะหันมาใช้สื่อ Social Media แทน ซึ่งบริษัทมียอดผู้ติดตาม 30-40 ล้านคน และทำให้ส่วนแบ่งการตลาดในญี่ปุ่นของการบินไทยขยับขึ้นมาใกล้ 30% จากที่มีกว่า 20%

นอกจากนี้ ยังมีเมืองอื่นในญี่ปุ่นที่ได้ติดต่อการบินไทย หลังจากเห็นการเปิดจุดบินใหม่ในเซนไดประสบความสำเร็จ รวมทั้งในตลาดยุโรปได้สำรวจโอกาสเปิดจุดบินไปยังเมืองแมนเชสเตอร์ด้วย

"ถ้าตลาดไปได้ เราเห็นว่าเราสู้ได้ แต่ต้องพิจารณาถึงเครื่องบินด้วย และต้องรอจังหวะ อาทิ ช่วงเปิด/ปิดภาคเรียน ฤดูกาลฟุตบอลพรีเมียร์ลีก เป็นต้น" นายสุเมธกล่าว

อย่างไรก็ตาม นายสุเมธ ยอมรับว่ากำไรต่อหน่วย (yield) ปีนี้ต่ำกว่าปีก่อน และยังได้รับผลกระทบจากเงินบาทแข็งค่า ทำให้ผลประกอบการของบริษัทในปีนี้ไม่เป็นไปตามแผน แต่ทั้งนี้คาดว่าในปีหน้า yield คงจะดีขึ้น


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ