นายกิติชาญ ศิริสุขอาชา ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์รายย่อย บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะแกว่งไซด์เวย์-ลุ้นขึ้นได้บ้าง เนื่องจากเช้านี้ตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียต่างฟื้นตัวขึ้นจากการเก็งธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุม 29-30 ต.ค.นี้ จากที่แนวโน้มเศรษฐกิจดูไม่ดี และการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน ดูเหมือนจะตกลงกันได้บ้าง
ส่วนเรื่องการถอนตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) ก็มีโอกาสที่จะขยายกำหนดเส้นตายในช่วงสิ้นเดือนต.ค.ออกไปได้ แต่ก็ยังไม่ได้กำหนดชัดว่าจะเป็นเมื่อใด ต้องรอติดตามดู ทำให้ตลาดฯไม่น่ากังวลเท่าไร
แต่บ้านเราอาจได้รับแรงกดดันบ้างจากการที่สหรัฐฯตัดสิทธิทางภาษีศุลกากรทางการค้า (GSP) สินค้าไทยบางรายการ ซึ่งจะมีผลในอีก 6 เดือนข้างหน้านั้น แต่เชื่อว่าจะไม่กดดันมากนัก เพราะเท่าที่ดูหุ้นหลักในตลาดฯไม่ได้รับผลกระทบมาก อีกทั้งเริ่มเห็นนักลงทุนต่างชาติกลับมาซื้อแล้ว พร้อมให้ติดตามการทยอยประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนงวดไตรมาส 3/62 ต่อไป โดยวันนี้ก็คาดว่าจะมีงบฯของ SCC, HMPRO, DELTA ประกาศออกมา
พร้อมให้แนวรับ 1,585 จุด ส่วนแนวต้าน 1,600 จุด
ประเด็นพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (25 ต.ค.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 26,958.06 จุด เพิ่มขึ้น 152.53 จุด (+0.57%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,022.55 จุด เพิ่มขึ้น 12.26 จุด (+0.41%), ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 8,243.12 จุด เพิ่มขึ้น 57.32 จุด (+0.70%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 54.63 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน เพิ่มขึ้น 3.76 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 102.72 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 25.87 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 8.78 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ เพิ่มขึ้น 12.51 จุด
ส่วนตลาดหุ้นสิงคโปร์ และตลาดหุ้นมาเลเซีย ปิดทำการวันนี้ เนื่องในวันหยุดชดเชยเทศกาลดีปาวาลี
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (25 ต.ค.62) 1,593.28 จุด ลดลง 27.69 จุด (-1.71%))
- นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 1,453.88 ล้านบาท เมื่อวันที่ 25 ต.ค.62
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ธ.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (25 ต.ค.62) ปิดที่ 56.66 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 43 เซนต์ หรือ 0.8%
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (25 ต.ค.) อยู่ที่ 2.84 ดอลลาร์/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 30.20 อ่อนค่าหลังดอลล์แข็ง ขานรับสงครามการค้ามีทิศทางดีขึ้น มองกรอบวันนี้ 30.15-30.25
- "พาณิชย์" เตรียมชงผลเจรจาอาร์เซ็ปเข้าครม.พรุ่งนี้ พร้อมเปิดบทสรุปก่อนปิดดีลประวัติศาสตร์ จับตาถ้อยแถลง "ประยุทธ์" 4 พ.ย.ต่อเวทีผู้นำ 16 ชาติอาร์เซ็ป ย้ำไทยให้ความสำคัญการค้ากับภูมิภาค ขณะที่แถลงการณ์ร่วมของผู้นำลั่น "ความตกลงอาร์เซ็ป" ได้ข้อสรุปแล้ว
- โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ยืนยันความพร้อมการประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งที่ 35 โดยมีผู้นำกว่า 20 ประเทศเยือนไทย หารือกำหนดทิศทางอนาคตเศรษฐกิจ รับมือการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 4 และเทคโนโลยีเปลี่ยนโลก
- สหรัฐจ่อใช้เวที "อินโด-แปซิฟิก" กดดันปมห้ามใช้สารเคมีเกษตร-นำเข้าเนื้อหมู "พาณิชย์-บัวแก้ว" ออกโรงแจงกรณีสหรัฐตัด "จีเอสพี" ไม่เกี่ยวแบน 3 สาร "จุรินทร์" จ่อยื่นสหรัฐทบทวนตัดสิทธิไทย โฆษกกระทรวงต่างประเทศ ยืนยันไม่กระทบเวทีอาเซียนซัมมิต
- ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ ทีเอ็มบี เผยหนี้เสียแบงก์พาณิชย์ทั้งระบบพุ่งแตะ 3.01% ทำสถิติสูงสุดในรอบ 8 ปี คาดยังไม่ถึงจุดพีค ปีหน้ายัง ขยับขึ้นอีก หลักๆ มาจากกลุ่มเอสเอ็มอี และอีคอมเมิร์ซ ได้รับผลกระทบจากสงครามการค้าและเงินบาทแข็งค่า "กรุงไทย-ไทยพาณิชย์" เกาะติดลูกค้า คัดกรองเข้ม กันหนี้เสียเกิดใหม่
- ทอท.เล็งยุบ 2 สนามบิน "หาดใหญ่-เชียงราย" ผู้โดยสาร-เที่ยวบินใช้บริการลดลงต่อเนื่อง เร่งปรับลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ เล็งทำเป็นที่ให้เช่าจอดเครื่องบินขณะที่สถิติปริมาณผู้โดยสารสนามบินหาดใหญ่ปีงบประมาณ 62 ลดลง 5.60% ส่วนเที่ยวบินทรุดฮวบ 7.40%
- นายเกรียงไกร เธียรนุกูล รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ส.อ.ท.อยู่ระหว่างการศึกษาผลกระทบการจ้างงานในภาคอุตสาหกรรมปีนี้ และแนวโน้มปี 2563 เพื่อให้ทุกภาคส่วนนำข้อมูลไปปรับทิศทางการดำเนินงานนโยบาย เพื่อให้สอดรับกับการเปลี่ยนแปลง เนื่องจากขณะนี้มีสัญญาณของภาคอุตสาหกรรม ที่เป็นห่วงโซ่การผลิต ที่ได้รับผลกระทบจากการส่งออกที่หดตัว อาทิ ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ชิ้นส่วนรถยนต์ ฯลฯ ที่เริ่มทยอยปิดโรงงาน และบางส่วนเริ่มให้พนักงานหยุดงานชั่วคราว เพื่อรอประเมินสถานการณ์คำสั่งซื้อ
*หุ้นเด่นวันนี้
- ADVANC (กรุงศรี) "ซื้อ"เป้า 260 บาท ปลอดภัยจาก Trade war, ขณะที่แนวโน้มผลประกอบการ Q3/62 ยังเติบโตตรงข้ามกับหุ้น Big Cap ในกลุ่ม พลังงานและธนาคารที่ชะลอตัว โดยคาดกำไรสุทธิประมาณ 8.5 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 10%qoq และ 25%yoy
- TISCO (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 2563 ที่ 112 บาท ราคาหุ้นผ่านการพักฐานและเริ่มรีบาวด์ ประกอบกับมี upside จากราคาพื้นฐาน 17% และมีจุดเด่นที่จ่ายปันผลสูง เราคาด 7 บาท/หุ้น Yield 7.3% จ่ายปีละครั้ง จึงกลับมาแนะนำอีกครั้งในบรรยากาศการลงทุนที่เสี่ยงสูง แนวโน้มกำไร Q4/62 น่าจะทรงตัวในระดับสูง 1.9 พันล้านบาท +2% Q-Q, +11% Y-Y สวนทางกลุ่มที่กำไร Q4/62 เป็นจุดต่ำสุดของปี แม้มาตรฐานบัญชีใหม่จะทำให้ผลประกอบการของแบงก์ผันผวนขึ้น แต่ TISCO จะผันผวนน้อยกว่ากลุ่มเพราะมีความพร้อมด้านเงินสำรองและและเงินกองทุน
- SEAFCO (เคจีไอฯ) แนะ"ซื้อ" เป้าพื้นฐาน 11.1 บาท ฝ่ายวิจัยฯคาดกำไร 3Q62 ที่ 96 ล้านบาท (-8.8% YoY, -5.5% QoQ) ประเมินโอกาสรับงานใหญ่จากงานรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน และคาด Catalyst ระยะสั้นอยู่ที่โอกาสการเซ็นสัญญารับงานใน 4Q62 อาทิ ทางด่วนพระนาม 3-ดาวคะนอง และทางยกระดับบางขุนเทียน-เอกชัย