นายพงษ์ศักดิ์ โล่ห์ทองคำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ในฐานะผู้ทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ของบมจ.เอสวีไอ (SVI) เปิดเผยความคืบหน้าการเสนอซื้อหลักทรัพย์ SVI ล่าสุด ณ สิ้นสุดวันที่ 25 ตุลาคม 2562 ว่า มีผู้แสดงเจตนาขายหุ้น SVI แล้วเป็นจำนวน 160,335,765 หุ้น หรือคิดเป็นเกือบ 40% ของเงื่อนไขในการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของกิจการ (Tender Offer) ในครั้งนี้ซึ่งมีเงื่อนไขจำนวนหุ้นขั้นต่ำ 415,321,965 หุ้น โดยได้มอบหมายให้ บล.กสิกรไทย เป็นตัวแทนการรับซื้อหลักทรัพย์
ทั้งนี้ ตัวแทนรับซื้อหลักทรัพย์ได้แจ้งว่า โดยปกติผู้ถือหุ้นส่วนใหญ่ จะเข้าทำรายการตอบรับคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ในไม่กี่วันสุดท้ายก่อนปิดการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ เนื่องจากภายหลังที่ตอบรับคำเสนอซื้อหลักทรัพย์แล้วจะไม่สามารถขายหุ้น SVI ในกระดานตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ โดยการที่มีผู้ถือหุ้น SVI แสดงเจตนาขายหุ้นแล้วเกือบ 40% ของเงื่อนไขในการทำเทนเดอร์นั้น ถือว่ามีปริมาณค่อนข้างมาก และคาดว่าผู้ถือหุ้นจะแสดงเจตนาขายหุ้น SVI เพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมากในช่วงก่อนปิดการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2562
นายพงษ์ศักดิ์ ยืนยันว่าต้องการเพิ่มสัดส่วนถือหุ้น SVI เป็นไม่ต่ำกว่า 65% เพื่อการบริหารบริษัทอย่างมีประสิทธิภาพ
"ผมค่อนข้างกังวล เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมามีกระแสข่าวว่าการทำ Tender Offer จากผู้ถือหุ้น SVI ครั้งนี้ เป็นเพียงแค่ข่าวเพื่อทำราคาหุ้น SVI เท่านั้น ทำให้ผู้ถือหุ้นบางส่วนลังเลที่จะตอบรับคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ เนื่องจากคิดว่า Tender Offer จะไม่เกิดจริง จะเสียเวลาในการทำคำตอบรับคำเสนอซื้อไปเสียเปล่า ๆ ส่วนตัวยืนยันว่ามีความพร้อมและตั้งใจทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์จากผู้ถือหุ้นทุกราย เพื่อเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นเป็นไม่ต่ำกว่า 65% เพื่อการควบคุมการดำเนินงานของบริษัท ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ก็กลัวว่า หากไม่ได้หุ้นตามเงื่อนไขและต้องยกเลิกการทำ Tender Offer ครั้งนี้จริง ก็อาจส่งผลให้ราคาหุ้น SVI ลดลงไปต่ำกว่าในช่วงก่อนมีการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์" นายพงษ์ศักดิ์ กล่าว
อนึ่ง นายพงษ์ศักดิ์ ประกาศรับซื้อหุ้นทั้งหมดของ SVI โดยสมัครใจแบบมีเงื่อนไข (Conditional Voluntary Tender Offer) จากปัจจุบันที่ถือหุ้นอยู่ 45.71% เพื่อที่จะเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในกิจการเพื่อเพิ่มอำนาจควบคุม โดยมีความประสงค์ที่จะเข้าถือหุ้นเกินกว่าหรือเท่ากับ 65% ดังนั้น อาจพิจารณายกเลิกการทำคำเสนอซื้อหุ้นหากสิ้นสุดระยะเวลารับซื้อแล้ว มีผู้เสนอขายน้อยกว่า 415,321,965 หุ้น หรือ 19.29% กำหนดระยะเวลารับซื้อ 25 วันทำการ ระหว่างวันที่ 26 ก.ย.-1 พ.ย.62 ที่ราคารับซื้อหุ้นละ 4.85 บาท