ตลาดหลักทรัพย์ฯปิดช่วงเช้านี้ที่ระดับ 1,601.59 จุด เพิ่มขึ้น 5.11 จุด (+0.32%) มูลค่าการซื้อขาย 27,091.18 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนบวกตลอดช่วงเช้า โดยดัชนีทำระดับสูงสุดที่ 1,605.45 จุด และทำระดับต่ำสุดที่ 1,598.65 จุด
น.ส.จิตรา อมรธรรม รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้แกว่งในแดนบวก ตามตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชีย ที่ต่างปรับตัวขึ้นในช่วงเช้า แต่ระหว่างทางตลาดภูมิภาคก็มีเคลื่อนไหวในแดนลบบางตลาดฯ ซึ่งตลาดบ้านเรามองเป็นการเกิดเทคนิคเคิลรีบาวด์มากกว่าหลังจากที่ปรับตัวลงไปมากในช่วงก่อนหน้านี้ แต่ในระหว่างทางก็เผชิญแรงขายออกมาด้วย
ทั้งนี้ ตลาดฯมีปัจจัยบวกจากต่างประเทศ ทั้งเรื่องเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน ที่ดูดีขึ้น หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ส่งสัญญาณจะลงนามข้อตกลงได้ก่อนการประชุมกลุ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก (เอเปค) ในเดือนหน้า และทางสหภาพยุโรป (อียู) ก็เลื่อนเส้นตายของการถอนตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) ออกไปเป็น 31 ม.ค.63
แต่ตลาดบ้านเรายังเผชิญแรงถ่วงจากผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนงวดไตรมาส 3/62 บางบริษัทไม่ค่อยดี อย่างไรก็ดี ให้ติดตามการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่จะมีขึ้นในวันที่ 29-30 ต.ค.นี้ ซึ่งตลาดให้น้ำหนักถึง 96% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย และให้ติดตามการประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ที่จะมีขึ้นในวันที่ 31 ต.ค.นี้ รวมถึงติดตามการทยอยประกาศงบฯต่อไป
แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ น.ส.จิตรา กล่าวว่า ตลาดฯคงจะยังแกว่งไซด์เวย์ในกรอบ 1,595-1,605 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
GPSC มูลค่าการซื้อขาย 2,962.68 ล้านบาท ปิดที่ 87.25 บาท ลดลง 4.50 บาท
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,639.91 ล้านบาท ปิดที่ 133.50 บาท ลดลง 2.50 บาท
CPALL มูลค่าการซื้อขาย 1,274.11 ล้านบาท ปิดที่ 78.25 บาท ลดลง 0.75 บาท
AOT มูลค่าการซื้อขาย 1,211.89 ล้านบาท ปิดที่ 78.75 บาท เพิ่มขึ้น 1.25 บาท
GULF มูลค่าการซื้อขาย 1,035.54 ล้านบาท ปิดที่ 167.50 บาท ลดลง 2.00 บาท