บมจ.เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท (SHR) ในเครือบมจ.สิงห์ เอสเตท (S) ลงนามในสัญญาจัดจำหน่ายหุ้นสามัญต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) มูลค่า 7,475 ล้านบาท พร้อมทั้งลงนามในสัญญาแต่งตั้งผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่าย โดยมีบล.เคที ซีมิโก้ บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) และบล.เครดิตสวิส ประเทศไทย เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย และผู้ร่วมจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย อีก 4 แห่ง ได้แก่ บล.โนมูระ พัฒนสิน บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) และบล.เอเซีย พลัส โดยมีธนาคารกรุงไทย และธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย เป็นตัวแทนจำหน่ายหุ้น
ทั้งนี้ SHR จะขายหุ้น IPO จำนวนไม่เกิน 1,437,456,000 หุ้น หรือคิดเป็นไม่เกิน 40% ของหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้ว ให้กับนักลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศ ที่ราคาหุ้นละ 5.2 บาท/หุ้น โดยเริ่มเปิดจองซื้อ IPO ให้แก่ผู้ถือหุ้นของ S เฉพาะกลุ่มที่มีสิทธิได้รับจัดสรรหุ้น จนถึง 30 ตุลาคม 2562 และสำหรับนักลงทุนรายย่อย ระหว่างวันที่ 1-5 พฤศจิกายน 2562 โดย SHR เตรียมพร้อมเข้าซื้อขายวันแรกในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ภายในกลางเดือนพฤศจิกายน 2562
สำหรับการกำหนดราคาเสนอขายหุ้น IPO เป็นผลจากการสำรวจความต้องการจองซื้อหุ้นของนักลงทุนสถาบัน (Bookbuilding) ที่ 5.2 บาท/หุ้น แสดงให้เห็นถึงความสนใจอย่างมากจากนักลงทุนสถาบันชั้นนำทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ นอกจากนี้พบว่านักลงทุนรายย่อยในประเทศไทยให้ความสนใจในหุ้น SHR เป็นจำนวนมาก ท่ามกลางสภาวะตลาดหลักทรัพย์ฯที่มีความผันผวน สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นในปัจจัยพื้นฐานที่มีความแข็งแกร่ง และความสามารถในการสร้างความเติบโตในอนาคตอย่างยั่งยืน นายเดิร์ก อังเดร ลีน่า คุยเบอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ของ SHR กล่าวว่า บริษัทนับเป็นบริษัทโฮลดิ้งที่มีการเติบโตอย่างสูง ในการลงทุนและบริหารโรงแรมและรีสอร์ทในแหล่งท่องเที่ยวระดับโลกที่น่าสนใจ โดยมีเป้าหมายที่จะสร้างมาตรฐานใหม่สำหรับการท่องเที่ยวและไลฟ์สไตล์ที่มีคุณภาพ ร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจ และยกระดับการกำกับดูแลกิจการ
นายชัยรัตน์ ศิวะพรพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงิน ของ SHR กล่าวว่า บริษัทมีแผนที่จะนำเงินที่ได้จากการระดมทุน IPO ไปใช้ในการขยายธุรกิจโรงแรมและลงทุนในการพัฒนาโครงการต่าง ๆ ทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งเงินที่ระดมทุนมานั้น จะนำไปชำระคืนเงินกู้และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนสำหรับกิจการทั่วไป ซึ่งรวมถึงการพัฒนาโครงการและค่าใช้จ่ายในการปรับปรุงห้องพักและพื้นที่ส่วนกลาง
"SHR มีเป้าหมายที่จะขยายธุรกิจโรงแรมอีกกว่าเท่าตัว จากจำนวนโรงแรมและรีสอร์ท 39 แห่ง มีจำนวนห้องพัก 4,647 ห้อง เป็น 80 แห่ง ห้องพักมากกว่า 8,000 ห้อง ภายในปี 2568 หรือคิดเป็นอัตราการเติบโตเฉลี่ยร้อยละ 15 ต่อปี" นายชัยรัตน์ กล่าว
ทั้งนี้ SHR ถือเป็นธุรกิจที่สามของ สิงห์ เอสเตท ที่ได้เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ หลังจากธุรกิจที่พักอาศัย ที่ได้นำบมจ.เนอวานา ไดอิ (NVD) เข้าจดทะเบียนเป็นบริษัทแรก ตามด้วยกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ เอส ไพรม์ โกรท (SPRIME) สำหรับธุรกิจอาคารสำนักงาน เมื่อต้นปี 2562