บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (ADVANC) หรือเอไอเอส เปิดเผยว่า ในไตรมาส 3/62 มีกำไรสุทธิเท่ากับ 8,679 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 28 เทียบกับปีก่อน และร้อยละ 12 เทียบกับไตรมาสก่อน โดยมีอัตรากำไรอยู่ที่ร้อยละ 19 ในไตรมาส 3/62 เทียบกับร้อยละ 16 ในไตรมาส 3/61 และร้อยละ 17 ในไตรมาส 2/62
สำหรับในงวด 9 เดือนแรกปี 62 บริษัทมีรายได้รวม 133,969 ล้านบาท เติบโตขึ้น 6.9% และมีกำไรสุทธิ 24,019 ล้านบาท เติบโตขึ้น 5.1% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
นายสมชัย เลิศสุทธิวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ADVANC กล่าวว่า ADVANC ถือเป็นโอเปอเรเตอร์รายเดียวของไทยที่สร้างผลกำไรในระดับหมื่นล้านบาทมาอย่างต่อเนื่อง และยังคงลงทุนเพื่อพัฒนาเครือข่ายมือถือและเน็ตบ้านอย่างต่อเนื่องด้วยงบลงทุน 20,000-25,000 ล้านบาท พร้อมก้าวสู่โครงข่าย 5G ในอนาคต โดยตลอด 9 เดือนของปี 2562 การแข่งขันในโลกยุคดิจิทัลยังคงเข้มข้นและมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ซึ่งบริษัทได้เตรียมพร้อมทั้งบุคลากรและเทคโนโลยีเพื่อสร้างและรักษามาตรฐานการดูแลลูกค้าอย่างดีที่สุด พร้อมยกระดับโครงสร้างพื้นฐานทางดิจิทัลเพื่อคนไทย ทำให้บริษัทได้รับความเชื่อมั่นจากลูกค้าตลอดจนผู้มีส่วนได้เสียในทุกภาคส่วน
"ส่วนผลประกอบการ ไตรมาส 3 ปี 62 เอไอเอส ยังคงมีรายได้และกำไรเติบโตต่อเนื่อง โดยมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 8,679 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 28% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 12% เมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ปี 62 นับเป็นการเติบโตต่อเนื่อง 5 ไตรมาส ติดต่อกัน" นายสมชัย กล่าว
สำหรับภาพรวมในธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ รายได้ในงวด 9 เดือนแรกปี 62 ยังคงเติบโตขึ้น 4.3% จากการใช้งานของลูกค้า 4G เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบันมีจำนวนลูกค้าโทรศัพท์มือถือมากที่สุดในตลาดอยู่ที่ 41.6 ล้านเลขหมาย และมีลูกค้า 4G จำนวน 28.5 ล้านราย มีการใช้งานดาต้าของลูกค้าเฉลี่ยเพิ่มขึ้นเป็น 12.1 กิกะไบต์ต่อเดือน ล่าสุด Ookla Speedtest ได้เผยผลสำรวจความเร็วเน็ตของไทย ครึ่งแรกปี 62 จัดอันดับให้ AIS เป็นเครือข่ายมือถือและเน็ตบ้านที่เร็วที่สุดในไทย, เครือข่ายมือถือที่ครอบคลุมมากที่สุดในไทย และเครือข่ายมือถือที่ดีที่สุดในไทย เป็นการการันตีคุณภาพเครือข่ายและการบริการที่เหนือคู่แข่ง เพื่อส่งมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้ลูกค้าและคนไทย
ด้านธุรกิจอินเทอร์เน็ตบ้าน AIS Fibre ยังทำผลงานได้ดีต่อเนื่อง โดยมีรายได้รอบ 9 เดือนเติบโตขึ้น 29% และในไตรมาส 3 ปี 2562 มีจำนวนลูกค้าเพิ่มขึ้น 81,600 ราย สูงที่สุดในรอบ 11 ไตรมาส ทำให้ในปัจจุบัน AIS Fibre มีฐานลูกค้าเพิ่มขึ้นเป็น 930,700 ราย มุ่งสู่เป้าหมาย 1 ล้านราย ภายในสิ้นปีนี้ ด้วยกลยุทธ์เน้นหลายบริการในแพคเกจเดียวสำหรับครอบครัว รวมถึงการเพิ่มประสิทธิภาพด้านช่องทางจัดจำหน่ายที่สะดวกและตอบโจทย์ลูกค้า ผ่านทาง LINE Official Account, Website, AIS Call Center 1175 ตอกย้ำการเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมเน็ตบ้านตัวจริง การันตีด้วยเครือข่ายอินเทอร์เน็ตบ้านที่เร็วที่สุดในไทย จาก Ookla Speedtest
ในไตรมาส 3/62 รายได้การให้บริการรายเดือน (postpaid) เติบโตขึ้นจากการปรับราคาแพ็กเกจรายเดือนให้เหมาะสมกับการใช้งานของลูกค้ามากขึ้น ในขณะที่ยังคงมีการแข่งขันค่อนข้างสูงในกลุ่มลูกค้าระบบเติมเงิน (prepaid) ในช่วงไตรมาสนี้จนถึงปัจจุบันจากการขายแพ็กเกจขนาดเล็กที่ให้ปริมาณดาต้ามาก ซึ่งเอไอเอสเลือกให้บริการแพ็คเกจดังกล่าวเพื่อรักษาส่วนแบ่งตลาดและรักษาฐานลูกค้าที่มีคุณภาพไว้ เป็นผลให้รายได้บริการธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ของ AIS เติบโตอยู่ที่ 32,880 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 6.4 เทียบกับปีก่อน และทรงตัวเทียบกับไตรมาสก่อน
ส่วนเอไอเอส ไฟเบอร์ (ธุรกิจอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง) ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องท่ามกลางสภาพการแข่งขันที่สูง โดยมีจำนวนลูกค้าเพิ่มขึ้น 81,600 รายในไตรมาสนี้ ทาให้ปัจจุบันมีจำนวนลูกค้ารวม 937,000 ราย และยังคงเป้าหมายฐานลูกค้าไว้ที่ 1 ล้านรายในสิ้นปีนี้
รายได้จากการบริการหลัก (ไม่รวมผลกระทบจากTFRS 15) ในไตรมาส 3/62 เติบโตอยู่ที่ 35,527 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 7.2 เทียบกับปีก่อน ตามการเติบโตของการให้บริการธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ระบบรายเดือน ธุรกิจอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง และธุรกิจบริการลูกค้าองค์กร หากเทียบกับไตรมาสก่อนรายได้จากบริการหลักทรงตัว เนื่องจากการแข่งขันด้านราคาในตลาดโทรศัพท์เคลื่อนที่ระบบเติมเงิน ในด้านของค่าใช้จ่าย ไตรมาสนี้ค่าใช้จ่ายด้านการตลาดน้อยลงเทียบกับไตรมาสก่อน และค่าเช่าเสาและอุปกรณ์ลดลงจากการระงับข้อพิพาทกับทีโอที
ส่งผลให้กำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) เติบโตขึ้นเป็น 21,135 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 19 เทียบกับปีก่อน และร้อยละ 11 เทียบกับไตรมาสก่อน โดยสรุปในช่วง 9 เดือน ปี 62 ADVANC มีรายได้จากบริการหลักเติบโตอย่างแข็งแกร่งที่ร้อยละ 5.2 เทียบกับปีก่อน และมีอัตรากำไร EBITDA อยู่ที่ร้อยละ 44.2 ซึ่งทั้งรายได้และอัตรากำไร EBITDA สอดคล้องกับประมาณการทั้งปี
ในไตรมาส 3/62 จำนวนผู้ใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่มีจำนวนทั้งสิ้น 41.6 ล้านคน เติบโตร้อยละ 2.2 เทียบกับปีก่อน และทรงตัวเทียบกับไตรมาสก่อน โดยการเติบโตส่วนใหญ่มาจากจำนวนผู้ใช้บริการระบบรายเดือนที่เพิ่มขึ้น ประกอบกับแนวโน้มลูกค้าในระบบเติมเงินย้ายงานไปใช้งานระบบรายเดือนยังมีอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบัน อัตราส่วนลูกค้ารายเดือนต่อลูกค้าทั้งหมด คิดเป็นร้อยละ 22 ส่งผลให้ ARPU เฉลี่ยเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.6 เทียบกับปีก่อน และคงที่เทียบกับไตรมาสก่อน