นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า ล่าสุดคณะกรรมการ(บอร์ด) การบินไทย (THAI) ได้มีมติให้เลื่อนการรับสมัครพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินจำนวน 200 อัตรา จากที่ประกาศรับสมัครตั้งแต่วันที่ 10-31 ต.ค.62 ออกไปก่อน เพื่อทบทวนการใช้อัตรากำลัง เนื่องจากได้ให้ข้อสังเกตไปว่าการบินไทยมีพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน 6,000 กว่าคน แต่มีเครื่องบินใช้งานได้ 80 กว่าลำ จากที่มีทั้งหมด 100 ลำ ซึ่งหากสามารถนำเทคโนโลยีใหม่มาใช้ และยกระดับความรู้ของพนักงานให้สามารถปฏิบัติหน้าที่กับเครื่องบินทุกประเภท จะสามารถลดอัตรากำลังลงได้ หากไม่ลดอัตราก็จะต้องสามารถให้พนักงานไปทำงานด้านอื่นได้ เพื่อให้การบินไทยสามารถปรับโครงสร้างและแก้ไขปัญหาต่างๆ
"ได้ให้ข้อสังเกต ว่าควรอบรมพนักงานให้มีความรู้กับประเภทเครื่องบินมากกว่า 1 รุ่น โดยจัดสรรเวลาในการอบรมเพิ่ม จะทำให้พนักงาน 1 คน สามารถให้บริการบนเครื่องบินหลายรุ่น ยืนยันว่า จะไม่มีการให้พนักงานออกเพื่อลดจำนวนแน่นอน"
นอกจากนี้ ยังให้พิจารณาเร่งรัดกรณีการนำเครื่องบินจอดรอซ่อมว่าจะดำเนินการอย่างไร เนื่องจากจะเป็นส่วนหนึ่งในการพิจารณาแผนจัดซื้อเครื่องบินใหม่เพื่อสร้างศักยภาพในการแข่งขันและเพิ่มรายได้
ด้านนายถาวร เสนเนียม รมช.คมนาคม กล่าวว่า ปัจจุบัน THAI ยังใช้เครื่องบินที่มีอยู่ได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ โดยมีเครื่องบินจำนวน 19 ลำจอดทิ้งอยู่โดยไม่ได้ใช้งาน ซึ่งมีค่าใช้จ่ายทั้งค่าจอด ค่าประกัน ค่าบำรุงรักษา โดย THAI มีแผนจำหน่ายเครื่องบินดังกล่าวออกไป
โดยเครื่องบินที่จอดทิ้งไว้เป็นเครื่องบินแอร์บัส A 340-500/600 จำนวน 10 ลำ จัดซื้อเมื่อปี 2548 โดยใช้งานได้ 5-6 ปี แต่เส้นทางบินที่นำมาใช้ประสบปัญหาขาดทุนอย่างหนักจึงต้องหยุดทำการบิน และหยุดใช้งานเครื่องบินรุ่นดังกล่าว แลัวนำไปจอดไว้ที่สนามบินอู่ตะเภา ซึ่งจากการพิจารณาพบว่า แอร์บัส A 340-500 มีความคุ้มค่าในการขาย ส่วนแอร์บัส A 340-600 จำนวน 6 ลำ สภาพเครื่องบินยังใหม่สามารถใช้งานได้ต่อไป
ดังนั้น ตนเองจึงให้ THAI พิจารณาทบทวนแผนปรับปรุงเครื่องบินแอร์บัส A340-600 โดยปรับเปลี่ยนสภาพภายในและเก้าอี้ใหม่ให้เหมาะสมกับความต้องการของผู้โดยสาร และนำมาใช้บินในเส้นทางไกล ซึ่งปัจจุบัน THAI ยังขาดเครื่องบินลำตัวกว้าง ความจุกว่า 300 ที่นั่ง ดังนั้นหากสามารถปรับปรุงได้โดยมีค่าใช้จ่ายไม่สูงมากนักจะลดจำนวนเครื่องบินที่ต้องซื้อใหม่ลงไปได้และจะประหยัดเงินได้มากกว่า
นอกจากนี้ ยังให้ตรวจสอบทรัพย์สินอื่นๆ เช่น อาคารที่ไม่ได้ใช้งานแล้วปล่อยทิ้งไว้ เช่น อาคารครัวการบิน ริมถนนวิภาวดีรังสิต ใกล้กับร้านเจ้เล้ง ปัจจุบันไม่ได้ใช้งานน่าจะนำออกมาให้เช่าระยะยาวเพื่อหารายได้ได้หรือไม่ หรือบางสถานีการบินที่ปิดให้บริการต้องนำทรัพย์สินภายในออกขายเพื่อไม่ต้องเสียค่าบำรุงรักษา