บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศปรับแนวโน้มอันดับเครดิตของธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY) และ บมจ. อีซี่บาย (EB) เป็นแนวโน้มอันดับเครดิตเป็นลบ (Negative Outlook) จาก แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ (Stable Outlook) พร้อมกันนี้ฟิทช์ประกาศคงอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาว (the Long-Term Issuer Default Rating) และอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาว (National Long-Term Rating) ของ BAY ที่ ‘AAA(tha)’ และคงอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของ EB ที่ ‘AA+(tha)’ ในขณะที่อันดับเครดิตอื่นไม่ได้รับผลกระทบจากการประกาศอันดับเครดิตในครั้งนี้
การปรับแนวโน้มอันดับเครดิตในครั้งนี้สอดคล้องกับการปรับแนวโน้มอันดับเครดิตของบริษัทแม่ของ BAY และ EB ซึ่งคือ MUFG Bank, Ltd. (A/Negative) และ ACOM CO., LTD. (A-/Negative) ตามลำดับ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่ม Mitsubishi UFJ Financial Group, Inc. (MUFG, A/Negative) เมื่อวันที่ 23 ตุลาคม 2562 (สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมหาได้จากประกาศอันดับเครดิตเรื่อง ‘Fitch Revises MUFG's Outlook to Negative; Affirms Ratings’)
ปัจจัยสนับสนุนอันดับเครดิต
อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวและอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของ BAY และอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของ EB พิจารณาจากมุมมองของฟิทช์ว่าสถาบันการเงินทั้งสองแห่งจะได้รับการสนับสนุนเป็นพิเศษนอกเหนือจากการดำเนินงานตามปรกติ (extraordinary support) จากบริษัทแม่ โดย BAYและ EB เป็นบริษัทลูกที่มีบทบาทสำคัญในเชิงกลยุทธ์ต่อกลุ่ม MUFG ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ นอกจากนี้ BAY และ EB ยังคงมีบริษัทแม่เป็นผู้ถือหุ้นในสัดส่วนที่สูงและมีอำนาจในการบริหารงาน อีกทั้งยังมีความผสานการดำเนินงานอย่างใกล้ชิดและได้รับการช่วยเหลือด้านการเงินมาอย่างต่อเนื่อง
ปัจจัยที่อาจมีผลต่ออันดับเครดิตในอนาคต
การเปลี่ยนแปลงอันดับเครดิตหรือโครงสร้างเครดิตของบริษัทแม่น่าจะส่งผลกระทบในทิศทางเดียวกันกับอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวและอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของ BAY และ อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของ EB การเปลี่ยนแปลงอันดับเครดิตภายในประเทศของ BAY และ EB จะส่งผลในทิศทางเดียวกันต่ออันดับเครดิตในประเทศระยะยาวของหุ้นกู้ของทั้งสองบริษัท
ฟิทช์อาจทำการปรับลดอันดับเครดิตหากฟิทช์เชื่อว่าโอกาสที่บริษัทแม่จะให้การสนับสนุนแก่บริษัทลูกมีการปรับตัวลดลง ตัวอย่างเช่น หากมีการลดลงอย่างมีนัยสำคัญในสัดส่วนการถือหุ้น หรือการลดระดับการควบคุมด้านการบริหารจัดการและความเชื่อมโยงระหว่างบริษัทลูกกับกลุ่ม แต่อย่างไรก็ตามฟิทช์เชื่อว่าเหตุการณ์ดังกล่าวไม่น่าจะเกิดขึ้นในระยะปานกลาง
การพิจารณาปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG)
หากไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติมในส่วนนี้ แสดงว่าธนาคารมีระดับคะแนนความสัมพันธ์ของ ESG ต่ออันดับเครดิต ไม่เกินระดับ 3 ซึ่งหมายความว่าปัจจัยด้าน ESG จะไม่ส่งผลกระทบหรืออาจมีผลกระทบในระดับที่น้อยมากต่ออันดับเครดิตของธนาคาร ไม่ว่าจะด้วยปัจจัยจากลักษณะของธุรกิจหรือจากการบริหารจัดการของธนาคารก็ตาม