นายรังสี ทีปกรสุขเกษม กรรมการผู้จัดการ บมจ.สมาร์ทคอนกรีต (SMART) เปิดเผยว่า ผลประกอบการงวดไตรมาส 3/62 มีรายได้รวม 125.48 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 33.40 ล้านบาท หรือ 36.26% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 92.085 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 14.804 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีขาดทุนสุทธิ 1.785 ล้านบาท
ส่วนผลประกอบการงวด 9 เดือน มีรายได้รวม 342.74 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 75.61 ล้านบาท หรือ 28.30% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 267.13 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 23.235 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีขาดทุนสุทธิ 20.196 ล้านบาท
สาเหตุที่ผลประกอบการปรับตัวดีขึ้นอย่างมาก มีปัจจัยสนับสนุนจากความเชื่อมั่นของกลุ่มลูกค้าในการใช้วัสดุอิฐมวลเบาที่ได้มาตรฐาน และประหยัดพลังงานมากขึ้น อีกทั้งนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจโครงการเมกะโปรเจคภาครัฐ โครงการก่อสร้างภาคเอกชน นอกจากนี้ ช่วงที่ผ่านมาบริษัทได้ขยายช่องทางการจัดจำหน่ายในทุกช่องทาง อาทิ โมเดิร์นเทรด ห้างค้าปลีกวัสดุก่อสร้าง เพิ่มตัวแทนจำหน่าย ร้านค้าวัสดุก่อสร้าง ทำให้บริษัทสามารถขยายพื้นที่การกระจายสินค้าไปยังกลุ่มลูกค้าเป้าหมายมากขึ้น
"ในช่วงโค้งสุดท้ายของปีนี้ภาพรวมตลาดวัสดุก่อสร้าง-อิฐมวลเบาในประเทศ มีทิศทางที่ดีอย่างต่อเนื่อง จากนโยบายระเบียงเศรษฐกิจพิเศษ EEC ผลักดันให้เกิดการลงทุนก่อสร้างนิคมอุตสาหกรรม โครงการเมกะโปรเจคขนาดใหญ่ของภาครัฐ อาทิ งานก่อสร้างอาคารสถานีรถไฟฟ้าสายต่าง ๆ ที่อยู่ระหว่างดำเนินการ และผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ทยอยลงทุนในโครงการใหม่ ปัจจัยดังกล่าวส่งผลให้ความต้องการสินค้ากลุ่มวัสดุก่อสร้าง-อิฐมวลเบา ปรับตัวดีขึ้น"นายรังสี กล่าว
นายรังสี กล่าวอีกว่า บริษัทยังคงเดินหน้าทำการตลาดเชิงรุก แนะนำสินค้าให้เป็นที่รู้จัก ผลักดันสินค้าผ่านช่องทางการจำหน่ายให้หลากหลาย และมีการขยายฐานลูกค้าอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันบริษัทมีสัดส่วนรายได้งานภาคเอกชน 70% งานภาครัฐ 28% และต่างประเทศ 2% โดยเป็นกลุ่มประเทศ CLMV ที่มีออร์เดอร์เข้ามาอย่างต่อเนื่อง
บริษัทยังมุ่งเน้นการใช้กลยุทธ์ O2O (Online to Offline) เพื่อกระตุ้นการสร้างยอดขายให้เติบโต และสร้างการรับรู้กับลูกค้าในวงกว้าง ผ่านสื่อออนไลน์และโซเชียลมีเดีย โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ใหม่กลุ่มบล็อกมวลเบาตกแต่ง อีกทั้งได้มีการจัดกิจกรรมการตลาดเพื่อแนะนำผลิตภัณฑ์ ซึ่งมีกระแสตอบรับที่ดี และมีคำสั่งซื้อจากกลุ่มลูกค้าสถาปนิก ผู้รับเหมารายย่อย และเจ้าของบ้าน มากขึ้น