HMPRO เผยกำไร 9 เดือนแรกปีนี้โต 12.78% แม้ยอดขาย Q3/62 พลาดเป้าจากเศรษฐกิจซบแต่มาร์จิ้นดีหนุน

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday November 4, 2019 13:45 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายคุณวุฒิ ธรรมพรหมกุล กรรมการผู้จัดการ บมจ.โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ (HMPRO) หรือโฮมโปร เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ บริษัทมีรายได้รวม 50,493.89 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,634.89 ล้านบาท หรือ 3.35% และมีผลกำไรสุทธิเท่ากับ 4,428.72 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 501.87 ล้านบาท หรือ 12.78% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน

ทั้งนี้ บริษัทมีรายได้จากการขาย จำนวน 47,046.01 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,325.80 ล้านบาท หรือ 2.90% ซึ่งเป็นผลมาจากการเติบโตของยอดขายสาขาเดิมของธุรกิจโฮมโปร และเมกา โฮม รวมถึงการเติบโตของยอดขายจากสาขาใหม่จากธุรกิจโฮมโปร และ รายได้ค่าเช่าและบริการ 1,951.89 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 203.37 ล้านบาท หรือ 11.63% เป็นผลมาจากรายได้ค่าเช่าที่เพิ่มขึ้นจากพื้นที่เช่าภายในศูนย์การค้ามาร์เกต วิลเลจ และพื้นที่ให้เช่าของสาขาโฮมโปร และพื้นที่เช่าจากการจัดกิจกรรมต่างๆร่วมกับคู่ค้า และรายได้จากค่าบริการ "Home Service" และมีรายได้อื่นอีก 1,496.00 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 105.72 ล้านบาท หรือ 7.60% โดยเป็นผลมาจากการเติบโตของรายได้ส่งเสริมการขายร่วมกับคู่ค้า ดอกเบี้ยรับ และรายได้เบ็ดเตล็ด

นอกจากนี้ บริษัทมีกำไรขั้นต้น 12,496.36 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 542.68 ล้านบาท หรือ 4.54% เมื่อเทียบกับปีก่อน สำหรับอัตรากำไรขั้นต้นต่อยอดขายเพิ่มขึ้นจาก 26.15% ในปีก่อน มาอยู่ที่ 26.56% โดยเป็นผลมาจากการปรับเปลี่ยนของส่วนผสมสินค้ามีไว้เพื่อขายทั้งกลุ่มสินค้าทั่วไป และกลุ่มสินค้า Direct Sourcing รวมถึงการเพิ่มประสิทธิภาพวางแผนการจัดซื้อสินค้าของธุรกิจโฮมโปร เมกา โฮม และโฮมโปรที่ประเทศมาเลเซีย

นายคุณวุฒิ กล่าวอีกว่า ในไตรมาส 3/62 มีความกังวลต่อเศรษฐกิจไทยที่ชะลอตัวลง การขยายตัวของเศรษฐกิจต่ำกว่าประเมินไว้ เนื่องจากผลกระทบจากสภาวะการกีดกันสงครามทางการค้าและเศรษฐกิจโลกที่อ่อนแอลง โดยเฉพาะภาคการส่งออกสินค้าได้รับผลกระทบตามเศรษฐกิจคู่ค้าและปริมาณการค้าโลกที่ชะลอลง เริ่มส่งผลกระทบต่อทุกภาคส่วนโดยเฉพาะอุปสงค์ในประเทศ การบริโภคภาคเอกชนมีแนวโน้มชะลอตัวลงจากรายได้และการจ้างงานที่ปรับลดลงโดยเฉพาะในภาคการส่งออก

ประกอบกับกำลังซื้อของผู้บริโภคยังคงได้รับแรงกดดันจากหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูงและราคาสินค้าการเกษตรที่ยังทรงตัวอยู่ในระดับต่ำ สำหรับภาคการท่องเที่ยวมีแนวโน้มขยายตัวชะลอลง รวมถึงผลกระทบจากฤดูฝน และอุทกภัยที่ภาคอีสาน อย่างไรก็ตามรัฐบาลได้มีมาตรการต่างๆ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจไทย เช่น บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และโครงการชิมช็อปใช้ เป็นต้น

สำหรับผลการดำเนินงานของบริษัทในไตรมาสนี้ถือเป็นช่วง Low Season ของธุรกิจค้าปลีก ซึ่งได้รับผลกระทบจากหลายปัจจัย เช่น ตัวเลขด้านเศรษฐกิจไทย ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่ลดลงต่ำสุดในช่วง 38 เดือนที่ผ่านมา และอุทกภัยในต่างจังหวัด รวมถึงยอดขายสินค้ากลุ่มโทรทัศน์ที่สูงผิดปกติในช่วงไตรมาสที่ 3/61 ทำให้การเติบโตของยอดขายในไตรมาสที่ 3 ไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้

อย่างไรก็ตาม บริษัทได้จัดกิจกรรมส่งเสริมการขายอย่างต่อเนื่องเพื่อกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยของลูกค้า อาทิ งานโฮมโปร แฟร์ (HomePro Fair) ที่เมืองทองธานี และที่หาดใหญ่ รวมถึงกิจกรรม "ฉลองครบรอบ 23 ปี Anniversary Day" ในช่วงวันที่ 29 ส.ค.-29 ก.ย.62 เพื่อกระตุ้นยอดขายอีกด้วย

ขณะที่การเติบโตของบริษัทย่อย คือ เมกา โฮม มียอดขายทรงตัว ส่วนธุรกิจ โฮมโปร ที่ประเทศมาเลเซียยังได้รับผลกระทบจากยอดขายที่สูงผิดปกติในปี 61 จากการยกเลิกภาษี GST อย่างไรก็ตาม บริษัทย่อยมีประสิทธิภาพการดำเนินงานที่ดีขึ้น ซึ่งเป็นผลมาจากการปรับปรุงประสิทธิภาพในการดำเนินงานต่างๆ ผ่านการปรับปรุงด้านอัตราการทำกำไรขั้นต้น และการบริหารค่าใช้จ่าย

สำหรับการขยายสาขาในไตรมาส 3/62 บริษัทได้ขยายสาขาใหม่ 2 แห่ง ที่ โฮมโปร สาขามุกดาหาร และโฮมโปรเอส สาขาสามย่านมิตรทาวน์ ส่งผลให้บริษัทมีสาขาโฮมโปร 84 สาขา และ โฮมโปรเอส 9 สาขา เมกา โฮม 12 สาขา และ โฮมโปรที่ประเทศมาเลเซีย 6 สาขาอีกด้วย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ