บลจ.กสิกรไทย ออกกองทุน"คอมเพล็กซ์รีเทิร์น" 1 ปี B ชูเงินต้นไม่หาย ขาย 6-12 พ.ย.นี้ ,มองบวกต่อตลาดหุ้นไทย

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday November 4, 2019 15:51 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายนาวิน อินทรสมบัติ รองกรรมการผู้จัดการ สายงานจัดการลงทุนต่างประเทศ บลจ.กสิกรไทย เปิดเผยว่า หลังจากที่เสนอขายกองทุน "คอมเพล็กซ์รีเทิร์น" กองแรกเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งได้รับความสนใจเป็นจำนวนมาก โดยกองทุนสามารถระดมทุนได้กว่า 2,914 ล้านบาท (ข้อมูล ณ ส.ค. 62) ดังนั้น จึงพิจารณาจัดตั้งกองที่ 2 ขึ้นภายใต้ชื่อ กองทุนเปิดเค Complex Return 1 ปี B (KCR1YB) โดยยังคงชูจุดเด่นในเรื่องการป้องกันความเสี่ยงจากการขาดทุนของเงินต้น 100% เมื่อลงทุนครบกำหนดอายุของโครงการ พร้อมโอกาสรับผลตอบแทนจากการลงทุนในสัญญาออปชั่น (Option) ที่อ้างอิงตามดัชนี SET50 สูงสุด 5.4% ซึ่งจะเปิดเสนอขายครั้งเดียวในระหว่างวันที่ 6-12 พฤศจิกายน 2562

กองทุน KCR1YB เป็นกองทุนผสมที่มีนโยบายลงทุนในเงินฝากและตราสารหนี้คุณภาพดีที่มีอันดับความน่าเชื่อถืออยู่ในระดับที่สามารถลงทุนได้ (Investment Grade) ทั้งในและต่างประเทศ ในสัดส่วน 98.5% ของพอร์ต โดยมีเป้าหมายเพื่อให้เงินต้นเติบโตเป็น 100% เมื่อครบอายุโครงการ 1 ปี สำหรับสัดส่วนที่เหลืออีก 1.5% จะลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivatives) ประเภทสัญญาออปชั่น ที่อ้างอิงตามดัชนี SET50

สำหรับเงื่อนไขการคืนเงินต้นและผลตอบแทนของกองทุน ณ วันครบอายุโครงการ แบ่งได้เป็น 4 กรณี ได้แก่ กรณีที่ 1 เมื่อดัชนีปรับตัวขึ้นเกิน 12% ก่อนวันครบอายุโครงการ และ กรณีที่ 2 เมื่อดัชนีปรับตัวขึ้นเกิน 12% ณ วันที่ครบกำหนดอายุโครงการ ซึ่งทั้ง 2 กรณีนี้ ผู้ลงทุนจะได้รับเงินลงทุนคืน 100% พร้อมผลตอบแทนชดเชยจากสัญญาออปชั่น 2% ของเงินลงทุน หรือคิดเป็นอัตราผลตอบแทนที่ 2%

ส่วนกรณีที่ 3 เมื่อดัชนีปรับตัวขึ้นมากกว่า 0% แต่ไม่เกิน 12% ณ วันที่ครบกำหนดอายุโครงการ ผู้ลงทุนจะได้รับเงินลงทุนคืน 100% พร้อมผลตอบแทนจากสัญญาออปชั่นในสัดส่วน 45% ของการเปลี่ยนแปลงของดัชนีอ้างอิง (Participation Rate) หรือคิดเป็นอัตราผลตอบแทนสูงสุดที่ 5.4% สำหรับกรณีที่ 4 เมื่อดัชนีปรับตัวต่ำกว่าหรือเท่ากับ 0% ณ วันที่ครบกำหนดอายุโครงการ ผู้ลงทุนจะได้รับเฉพาะในส่วนของเงินลงทุนคืน 100% โดยไม่ได้รับผลตอบแทนจากการลงทุน

นายนาวิน กล่าวว่า บลจ.กสิกรไทย ยังคงมีมุมมองเชิงบวกต่อตลาดหุ้นไทย ด้วยปัจจัยสนับสนุนต่าง ๆ ทั้งจากการที่ธนาคารกลางของประเทศแกนหลักดำเนินนโยบายผ่อนคลายทางการเงิน ทำให้มีเงินทุนไหลเข้าลงทุนในตลาดหุ้นเพิ่มขึ้น อีกทั้งอัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทยยังอยู่ในระดับต่ำ ทำให้สภาพคล่องสูงหนุนบรรยากาศการลงทุนของภาคเอกชน ด้านการเมืองของไทยมีเสถียรภาพมากขึ้น มีการผลักดันนโยบายด้านการคลัง รวมไปถึงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานสาธารณะอย่างต่อเนื่อง และการกลับมาของนักท่องเที่ยวต่างชาติ ทำให้สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือ (Credit Rating Agency) ปรับมุมมองเป็นเชิงบวก และอาจปรับอันดับความน่าเชื่อถือของไทยขึ้น

ทั้งนี้ จากผลการดำเนินงานย้อนหลัง 10 ปีของดัชนี SET50 พบว่า มีผลตอบแทนเฉลี่ยต่อปีอยู่ที่ 7.86% (ข้อมูลจาก ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ณ ก.ย. 62) อย่างไรก็ตาม ยังมีปัจจัยเสี่ยงที่ต้องติดตามทั้งประเด็นทางการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน ที่อาจส่งผลต่อการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก รวมถึงความขัดแย้งทางการเมืองในภูมิภาคต่างๆ เช่น ฮ่องกง ซีเรีย อิหร่าน เป็นต้น

สำหรับกองทุน KCR1YB เป็นกองทุนที่มีความเสี่ยงสูงหรือมีความซับซ้อน โดยกองทุนเหมาะสำหรับผู้ลงทุนที่ต้องการลดความเสี่ยงจากการสูญเสียเงินต้น และต้องการสร้างผลตอบแทนในตลาดหุ้นไทยภายในระยะเวลาการลงทุนที่แน่นอน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ