หุ้น IP ปิดเทรดช่วงเช้าที่ 8.90 บาท เพิ่มขึ้น 1.90 บาท (+27.14%) จากราคาขาย IPO ที่ 7.00 บาท/หุ้น มูลค่าซื้อขาย 1,071.65 ล้านบาท โดยเปิดตลาดที่ 7.50 บาท ราคาขึ้นสูงสุด 9.50 บาท และราคาทำระดับต่ำสุด 7.50 บาท
นายทรงวุฒิ ศักดิ์ชลาธร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.อินเตอร์ ฟาร์มา (IP) เปิดเผยว่า ค่อนข้างพอใจกับการเปิดซื้อขายหุ้น IP ในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) เป็นวันแรกในวันนี้ เพราะก่อนหน้านี้ก็กังวลเพราะตลาดหุ้นมีความผันผวนค่อนข้างมาก โดยเชื่อว่าการที่นักลงทุนตอบรับดีมาจากการที่บริษัทมีทิศทางการเติบโต และคู่แข่งน้อย รวมถึงจะเร่งต่อยอดในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ และขยายช่องทางการจัดจำหน่ายในร้านโมเดิร์นเทรด และช่องทางออนไลน์เพิ่มขึ้น เพื่อให้กลุ่มลูกค้าที่ต้องการผลิตภัณฑ์คุณภาพสูงสำหรับดูแลสุขภาพและชะลอวัย สามารถเข้าถึงผลิตภัณฑ์ได้ง่าย ซึ่งการที่ได้เงินจากการเสนอขายหุ้นให้ประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) ก็จะช่วยส่งเสริมการเติบโตให้กับบริษัทต่อไป
บล.ทิสโก้ ระบุในบทวิเคราะห์ว่า IP มีราคา IPO เทียบกับ PER ที่สูงกว่ากลุ่มที่ประกอบคล้ายคลึงกันเกือบ 2 เท่าตัว (MEGA มี PER ที่ 22.65 เท่าและ APCO ที่ 24.81 เท่าเทียบกับ IP ที่ 54 เท่า) และหากมองในเชิงของราคาต่อมูลค่าทางบัญชีที่เฉลี่ย 3.36 เท่า จะคิดเป็นราคาของ IP ที่ 7.35 บาท แม้ว่าธุรกิจของ IP ดีเป็นธุรกิจที่มีแนวโน้มเติบโตดีและน่าสนใจ แต่อย่างไรก็ตาม ด้วยราคาหุ้นที่สูงกว่าคู่แข่งมาก ทำให้เป็นหุ้นที่มีความเสี่ยงต่อความคาดหวังของผลประกอบการสูง ทำให้ในกรณีที่การเติบโตเริ่มชะลอตัวลงจะกระทบต่อราคาหุ้นอย่างมีนัยสำคัญ
IP ดำเนินธุรกิจเป็นผู้แทนจำหน่าย และผู้พัฒนา คิดค้น ผลิตภัณฑ์สุขภาพและนวัตกรรมความงามสำหรับคน และผลิตภัณฑ์สุขภาพสำหรับสัตว์ แบ่งเป็น ผลิตภัณฑ์รักษาสุขภาพและชะลอวัย (Wellness and Anti-Aging Products) ผลิตภัณฑ์นวัตกรรมความงาม (Aesthetic Innovation Products) ผลิตภัณฑ์ดูแลและส่งเสริมสุขภาพของสัตว์เลี้ยง (Companion Animal Health Products) และผลิตภัณฑ์สำหรับปศุสัตว์ (Livestock Products)
โดยมีสัดส่วนรายได้จากการขายผลิตภัณฑ์ของเจ้าของสินค้ารายอื่น ในสัดส่วน 60% และผลิตภัณฑ์ของกลุ่มบริษัท ประมาณ 40% ซึ่งบริษัทว่าจ้างโรงงานทั้งในและต่างประเทศผลิตสินค้าภายใต้ตราสินค้าของบริษัท อาทิ ผลิตภัณฑ์ Probac 7 และ Probac 10 เป็นต้น