ตลาดหลักทรัพย์ฯ ปิดช่วงเช้าวันนี้ที่ระดับ 1,626.14 จุด เพิ่มขึ้น 3.89 จุด (+0.24%) มูลค่าการซื้อขาย 29,286.55 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนบวก โดยดัชนีทำระดับสูงสุดที่ 1,629.77 จุด และทำระดับต่ำสุดที่ 1,622.85 จุด
นายณัฐชาต เมฆมาสิน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทรีนีตี้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยภาคเช้าลดช่วงบวกลงจากเมื่อวานนี้ที่ดีดตัวขึ้นแรง ปัจจัยหลักยังได้รับ Sentiment เชิงบวกจากความคาดหวังการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีน ที่การลงนามข้อตกลงทางการค้าร่วมกันอาจจะเกิดขึ้นในเดือนพ.ย.นี้ ซึ่งจะทำให้อาจยกเลิกการขึ้นภาษีระหว่างกันในช่วงที่ผ่านมาและโอกาสที่จะขึ้นภาษีใหม่ในอนาคต จะเป็น upside risk ของตลาด
อย่างไรก็ตามมองว่าการปรับขึ้นของดัชนีหุ้นไทยในเดือนพ.ย.นี้ ประเมินว่าจะยังถูกจำกัดที่ระดับ 1,650 จุด จากปัจจัยด้าน Valuation เป็นสำคัญ เพราะ EPS ของตลาดถูก downgrade ขณะที่น่าจะเริ่มเห็นแรงซื้อของนักลงทุนสถาบันในประเทศชะลอตัวลง หลังจากที่เข้าซื้อค่อนข้างมากเมื่อวานนี้ เนื่องจากดัชนีปรับตัวขึ้นมายืนเหนือระดับ 1,600 จุดแล้ว โดยประเมินว่าเมื่อใดที่ดัชนีอยู่ในระดับต่ำกว่า 1,600 จุดก็จะเริ่มเห็นแรงซื้อจากเม็ดเงินกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) เข้ามา ซึ่งมองว่าในช่วง 2 เดือนสุดท้ายของปีน่าจะมีเม็ดเงินจาก LTF ที่ยังไม่เข้าตลาดอยู่ราว 3 หมื่นล้านบาท
ส่วนแนวโน้มการซื้อขายภาคบ่าย แม้ดัชนีจะยังคงได้ Sentiment ยังอยู่ในเกณฑ์ดีจากความคืบหน้าการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีน แต่การปรับขึ้นจะยังอยู่ในกรอบจำกัดทำให้ภาพตลาดยังเป็นลักษณะการลดช่วงบวกจากเมื่อวานนี้ โดยมองแนวรับที่ 1,610 จุด และแนวต้านที่ 1,640 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
CPALL มูลค่าการซื้อขาย 1,781.84 ล้านบาท ปิดที่ 78.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท
PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,446.95 ล้านบาท ปิดที่ 45.50 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,235.96 ล้านบาท ปิดที่ 145.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.50 บาท
JAS มูลค่าการซื้อขาย 1,051.99 ล้านบาท ปิดที่ 5.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.10 บาท
GULF มูลค่าการซื้อขาย 1,010.44 ล้านบาท ปิดที่ 174.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท