BCPG เผยผลงาน Q3/62 หดตัวแต่เป็นไปตามแผน แจงกำไรปกติใน Q3/62 ยังทรงตัวสูงแม้ฤดูฝนกระทบโซลาร์

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday November 7, 2019 09:41 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายบัณฑิต สะเพียรชัย กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.บีซีพีจี (BCPG) ชี้แจงผลดำเนินงานงวดไตรมาส 3/62 บริษัทมีกำไรสุทธิ 401.19 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 0.20 บาท ลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 1.14 พันล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 0.57 บาท

อย่างไรก็ตาม กำไรสุทธิจากการดำเนินงานปกติของบริษัทยังทรงตัวได้ในระดับสูงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากมีการรับรู้รายได้จากโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม "ลมลิกอร์" และโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ร่วมกับองค์การทหารผ่านศึก (อผศ.) เต็มไตรมาส และรับรู้รายได้จากโครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำ "Nam San 3A" ใน สปป.ลาว เมื่อปลายเดือน ก.ย.ที่ผ่านมา

รวมถึงได้รับส่วนแบ่งกำไรจากโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนใต้พิภพที่ดีขึ้นในประเทศอินโดนีเซีย มาชดเชยรายได้จากโครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ นิคาโฮ (Nikaho) และ นากิ (Nagi) ในประเทศญี่ปุ่นที่บริษัทได้จำหน่ายเข้ากองทุนโครงสร้างพื้นฐานไปเมื่อไตรมาส 3/61

ทั้งนี้ หากเทียบกับไตรมาส 2/62 กำไรสุทธิจากการดำเนินงานปกติอ่อนตัวลง สาเหตุหลักมาจากโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศไทยได้รับผลกระทบจากการเข้าสู่ช่วงฤดูฝน แต่โครงการอื่นทั้งในไทยและต่างประเทศได้รับผลบวกจากการเข้าสู่ช่วงฤดูกาลมาชดเชยบางส่วน อาทิ โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม "ลมลิกอร์" ในประเทศไทย และโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม ประเทศฟิลิปปินส์

ขณะที่ในช่วง 9 เดือนของปี 62 กลุ่มบริษัทมีกำไรสุทธิประมาณ 1,357 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีการรับรู้กำไรพิเศษจากการขายสินทรัพย์เข้ากองทุนโครงสร้างพื้นฐานในประเทศญี่ปุ่น แต่หากเปรียบเทียบผลการดำเนินงานปกติของกลุ่มบริษัทเพิ่มขึ้นเล็กน้อย 1.0% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

"การดำเนินงานในไตรมาสที่สามของปีนี้ เป็นไปตามแผนงานของบริษัทฯ โดยมีการรับรู้รายได้เต็มไตรมาสจากโครงการลมลิกอร์ที่จังหวัดนครศรีธรรมราช และโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ร่วมกับ อผศ.2 โครงการ ในขณะเดียวกัน เราได้เดินหน้าสร้างความเติบโตในธุรกิจหลักด้วยการเข้าซื้อโครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำในลาว และรับรู้รายได้ตั้งแต่เดือนกันยายนที่ผ่านมา นับเป็นการต่อยอดเทคโนโลยีการผลิตไฟฟ้าในรูปแบบใหม่ที่มีความน่าสนใจ และการขยายฐานธุรกิจของบริษัทไปยังประเทศต่างๆ ครอบคลุมทั่วภูมิภาคเอเชีย นอกจากจะทำให้รายได้ของบริษัทมีเสถียรภาพมากขึ้นแล้ว ยังเป็นการสร้างสมดุลของความหลากหลายของโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนของบริษัทอีกด้วย"

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ