นายอัญชลิน พรรณนิภา ประธานกรรมการ บมจ.ทีคิวเอ็ม คอร์ปอเรชั่น (TQM) เปิดเผยว่า ผลประกอบการไตรมาส 3/2562 บริษัทมีกำไรสุทธิ 127.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 34.2 ล้านบาท หรือ 36.7% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไร 93.1 ล้านบาท โดยมีรายได้รวม 689.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 89.3 ล้านบาท หรือ 14.9% เทียบจากช่วงเดียวกันปีก่อนอยู่ที่ 600.2 ล้านบาท ตามการเพิ่มขึ้นของค่าเบี้ยประกันวินาศภัย ซึ่งล่าสุดสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ระบุว่า ในช่วงครึ่งแรกของปี 2562 เบี้ยประกันภัยประเภทรถยนต์ปรับเพิ่มขึ้น 5.84% และประกันภัยประเภทเบ็ดเตล็ดปรับเพิ่มขึ้น 5.21%
รวมถึงมีรายได้ค่าบริการไตรมาส 3/2562 อยู่ที่ 672.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 75.7 ล้านบาท หรือคิดเป็น 12.7% เมื่อเทียบจากไตรมาสเดียวกันปีก่อนที่ 596.6 ล้านบาท ขณะที่ต้นทุนและค่าใช้จ่ายการให้บริการอยู่ที่ 343.1 ล้านบาท หรือคิดเป็น 49.8% ของรายได้รวม ปรับเพิ่มขึ้น 13.0% เมื่อเทียบจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ 303.7 ล้านบาท หรือคิดเป็น 50.6% ของรายได้รวม เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของจำนวนพนักงานขายที่บริษัทได้จัดเตรียมไว้รองรับปริมาณงานขาย ซึ่งจะผลักดันรายได้บริษัทให้เพิ่มมากขึ้น หลังพนักงานขายผ่านการฝึกอบรมและได้รับใบอนุญาตการเป็นนายหน้าประกันภัยและประกันชีวิต
ส่งผลให้กำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้น 36.3 ล้านบาท หรือ 12.4% มาอยู่ที่ 329.2 ล้านบาท เมื่อเทียบจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่อยุ่ระดับ 292.9 ล้านบาท เนื่องจากยอดขายและรายได้อื่นจากดอกเบี้ยรับและผลตอบแทนจากเงินลงทุนเพิ่มขึ้น รวมถึงการนำเทคโนโลยีเข้ามาปรับใช้ ช่วยให้การบริหารงานมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
นายอัญชลิน กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับมาตรฐานการรายงานทางการเงิน ฉบับที่ 17 (IFRS17) สัญญาประกันภัย ที่จะมีผลบังคับใช้ในต่างประเทศราวปี 2564 นั้น ยืนยันว่า ไม่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานของกลุ่มบริษัทแต่อย่างใด เนื่องจากกลุ่มบริษัทดำเนินธุรกิจนายหน้าประกันภัย ซึ่งอยู่ในกลุ่มธุรกิจบริการ