นางสลิลทิพ เรืองสุทธิภาพ รองกรรมการผู้จัดการ สายงานบัญชี การเงิน และสนับสนุนองค์กร บมจ. ดูโฮม (DOHOME) เปิดเผยว่า ภาพรวมผลการดำเนินงานงวด 9 เดือนแรกของปีนี้ บริษัทฯ สามารถรักษาผลกำไรเติบโตได้ดีเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยมีกำไรสุทธิทั้งสิ้น 573.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 48.5% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 386.0 ล้านบาท และมีรายได้รวมอยู่ที่ 13,636.7 ล้านบาท
ขณะที่ผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 3/62 มีกำไรสุทธิทั้งสิ้น 133.9 ล้านบาท และมีรายได้รวม 4,149.4 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิจำนวน 91.6 ล้านบาท และมีรายได้รวมอยู่ที่ 4,456.1 ล้านบาท ปัจจัยที่กำไรมีอัตราเติบโตดีกว่ารายได้รวม มาจากการปรับปรุงสิทธิภาพในการดำเนินงาน การปรับแผนการตลาด การบริหารจัดการและควบคุมปริมาณสต๊อกสินค้าคงคลังอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ส่งผลดีต่อการควบคุมค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร (SG&A) ที่ดีขึ้น
นอกจากนี้ยังได้รับผลดีจากการเพิ่มยอดขายสินค้าของกลุ่มบริษัทฯ (House Brand) ส่งผลดีต่ออัตรากำไรขั้นต้นโดยรวมที่ปรับตัวดีขึ้น แม้ว่าในเดือนกันยายนที่ผ่านมามีเหตุการณ์น้ำท่วมในบางจังหวัดพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่มีผลต่อกำลังซื้อสินค้าวัสดุก่อสร้างในช่วงเวลาดังกล่าว แต่ในด้านขีดความสามารถการทำกำไรยังอยู่ในระดับที่ดี
"แม้ว่าไตรมาส 3 ที่ผ่านมามีเหตุการณ์น้ำท่วมที่ส่งผลกระทบกับยอดขายดูโฮมบางสาขา แต่โดยรวมบริษัทฯ ยังคงรักษายอดขายอยู่ในระดับที่น่าพอใจ และสามารถควบคุมค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารได้ดี ส่งผลให้ภาพรวมการดำเนินงานช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ ยังคงมีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน" นางสลิลทิพ กล่าว
รองกรรมการผู้จัดการ สายงานบัญชี การเงิน และสนับสนุนองค์กร DOHOME กล่าวว่า สำหรับปัจจัยบวกต่อการเติบโตในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ จะมาจากการเปิดให้บริการดูโฮม สาขาเพชรเกษม ในตำบลอ้อมน้อย อำเภอกระทุ่มแบน จังหวัดสมุทรสาคร ซึ่งเป็นสาขาขนาดใหญ่แห่งใหม่ (สาขาขนาดใหญ่แห่งที่ 10) ของบริษัทฯ มีพื้นที่รวมทั้งสิ้นกว่า 26,500 ตารางเมตร โดยสาขาดังกล่าวตั้งอยู่ในทำเลที่เป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์ทางตอนใต้ของกรุงเทพฯ ที่เป็นรอยต่อกับจังหวัดปริมณฑล ปัจจุบันมีโครงการที่อยู่อาศัยเกิดขึ้นเป็นจำนวนมากเพื่อรองรับการขยายตัวของเมืองในโซนนี้ ดังนั้นบริษัทฯ จึงมั่นใจว่าจะส่งผลดีต่อยอดขายสินค้าของดูโฮม สาขาเพชรเกษม
ทั้งนี้ บริษัทฯ หวังผลักดันภาพรวมรายได้ในปีนี้เติบโตดีกว่าปีที่ผ่านมา โดยคาดว่าหลังจากสถานการณ์น้ำท่วมในภาคตะวันออกเฉียงเหนือคลี่คลายกลับเข้าสู่สภาวะปกติมาระยะหนึ่ง จะส่งผลดีกำลังซื้อวัสดุก่อสร้างในพื้นที่และมีความต้องการใช้วัสดุก่อสร้างเพื่อการซ่อมแซมที่อยู่อาศัยเกิดขึ้น โดยเริ่มเห็นสัญญาณเชิงบวกในด้านยอดขายสินค้าและบริการในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา โดยเฉพาะสินค้าที่เกี่ยวข้องกับการซ่อมแซมอาคารบ้านเรือน