นางชนมาศ ศาสนนันทน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายการเงิน บมจ.ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (PTTEP) หรือ ปตท.สผ. เปิดเผยว่า ปตท.สผ.เตรียมประกาศแผนลงทุน 5 ปี (ปี 63-67) ในช่วงเดือน ธ.ค.62 โดยจะมุ่งเน้นการขุดเจาะสำรวจปิโตรเลียมในแหล่งที่บริษัทมีอยู่แล้ว ได้แก่ แหล่งในมาเลเซีย และเมียนมา เพื่อเป็นการเพิ่มกำลังการผลิตและปริมาณการขาย
ขณะที่ประเทศมาเลเซียและเมียนมา ยังคงมีความต้องการใช้ก๊าซธรรมชาติเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในมาเลเซียภายหลังจากที่ได้เข้าซื้อกิจการของ Murphy เข้ามาแล้วทำให้ยังมีแหล่งที่ต้องขุดเจาะสำรวจเพิ่มอีก ส่วนในเมียนมามีแหล่งที่ต้องขุดสำรวจเพิ่มเติมจากแหล่งซอติก้า ได้แก่ โครงการเมียนมา เอ็ม 3 ส่วนการลงทุนธุรกิจโรงไฟฟ้า Gas to Power คาดว่าจะมีความชัดเจนได้ในปี 63
ทั้งนี้ ปตท.สผ.คาดว่าในช่วง 5 ปี ข้างหน้าจะมีปริมาณการผลิตและปริมาณขายที่เพิ่มขึ้นเฉลี่ยปีละ 5-7% เป็นผลจากการขุดเจาะสำรวจแหล่งปิโตรเลียมที่มีอยู่ในระบบ ขณะเดียวกันยังอยู่ระหว่างการพิจารณาขายหรือดำเนินการเตรียมขุดเจาะสำรวจแหล่งปิโตรเลียมที่อยู่ระหว่างรอดำเนินการ ได้แก่ แหล่งมาเรียนา ออยล์ แซนด์ ที่แคนาดา และแหล่ง Cash Maple ที่ออสเตรเลีย
นอกจากนี้ ปตท.สผ.ได้เข้าพื้นที่แหล่งเอราวัณและแหล่งบงกช ในอ่าวไทยเพื่อเตรียมดำเนินการผลิตปิโตรเลียมให้มีความต่อเนื่องภายใต้ระบบสัญญาแบ่งปันผลผลิต (PSC) หลังจากสัมปทานของทั้งสองแหล่งหมดอายุลงในปี 65 และ 66 โดยจะผลิตปิโตรเลียมให้ได้ตามปริมาณการผลิตขั้นต่ำที่ 800 และ 700 ล้านลูกบาศก์ฟุต/วัน ตามลำดับ
ส่วนกรณีที่บริษัทเสนอขายหุ้นกู้ด้อยสิทธิคล้ายทุน (Perpetual Subordinated Bond) มูลค่า 600 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หากเกณฑ์มาตรฐานทางบัญชีใหม่จะต้องมีการบันทึกหุ้นกู้ดังกล่าวในส่วนของหนี้สิน จากเดิมที่ให้บันทึกเป็นส่วนทุน จะส่งผลให้หนี้สินต่อทุน (D/E) ของบริษัทเพิ่มขึ้นเป็น 0.25 เท่า จากเดิมอยู่ที่ 0.18 เท่า อย่างไรก็ตาม มองว่ายังคงมีช่องว่างให้บริษัทสามารถกู้เงินได้อีก โดยบริษัทมีนโยบายคุม D/E ไม่ให้เกิน 1.5 เท่า