บอร์ดก.ล.ต.ถกนัดพิเศษสัปดาห์หน้า หารือแผนขับเคลื่อนปี 63-65 พร้อมนำดิจิทัลร่วมบริหารจัดการ

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday November 11, 2019 14:57 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นางสาวรื่นวดี สุวรรณมงคล เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยว่า คณะกรรมการ ก.ล.ต.จะมีการประชุมนัดพิเศษในสัปดาห์หน้า เพื่อพิจารณาแผนขับเคลื่อนของ ก.ล.ต.ในปี 63-65 ซึ่งหนึ่งในนั้นจะเป็นเรื่องของดิจิทัล โดยจะนำความรู้ที่ได้จากงาน Singapore Fintech Festival 2019 ที่จัดเป็นครั้งที่ 4 ไปวิเคราะห์กับร่างแผนงานของก.ล.ต. เพื่อให้สอดรับหรือสอดคล้องกัน

ทั้งนี้ ก.ล.ต.ได้มาออกบูธครั้งแรกในงาน Singapore Fintech Festival 2019 ที่จัดขึ้น ณ Singapore EXPO สาธารณรัฐสิงคโปร์ ระหว่างวันที่ 11-13 พ.ย.62 เนื่องด้วยก.ล.ต. มีโครงการนำดิจิทัลเข้ามาขับเคลื่อนโดยใช้เทคโนโลยีที่เรียกว่า Distributed Ledger Technology : DLT ซึ่งที่ผ่านมา ก.ล.ต.ได้มีการตั้งคณะทำงานฯ และได้เชิญทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องกับตลาดทุนไทยเข้ามาร่วม ซึ่งโครงการดังกล่าวจะนำเอาดิจิทัล ทั้งในเรื่องของบล็อกเชน สมาร์ทคอนแทค เข้ามาใช้กับตลาดทุนไทย ตั้งแต่ต้นทาง กลางทาง ถึงปลายทาง หรือตั้งแต่การออกเสนอขายหลักทรัพย์ทุกประเภท, ที่เป็นการขายในตลาดรอง ไม่ว่าจะเป็นหลักทรัพย์ประเภทใดก็ตาม ทั้งตลาดหุ้นและตลาดพันธบัตร รวมถึงการบริหารจัดการกองทุน และระบบ Clearing settlement ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นโครงการโครงสร้างพื้นฐานของตลาดทุนไทย

อย่างไรก็ตาม DLT ถือเป็นจุดขายของบูธ ก.ล.ต. ซึ่งตั้งแต่เริ่มงานก็มีผู้ที่ให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก นอกจากนั้นหลายบูธบริเวณ Hall 1 ก็มาในคอนเซ็ปท์เดียวกัน โดยชูเรื่องของบล็อกเชน,สมาร์ทคอนแทค, DLT เป็นต้น ขณะเดียวกันก็มองว่าเป็นโอกาสที่ก.ล.ต.จะได้บอกและเปิดให้กับคนที่อยู่ในอุตสาหกรรมฟินเทค, อุตสาหกรรมดิจิทัล ,ภาคการเงิน ได้เห็นแนวคิดของตลาดทุนไทย โดยมีก.ล.ต. เป็นผู้นำเสนอ และเป็นตัวแทนของทุกภาคส่วนในตลาดทุน

อีกทั้งยังเป็นโอกาสที่ดีมากที่ ก.ล.ต.ได้ชวนผู้ประกอบการ SME 4 บริษัทมาร่วมเสนอ นำโดยสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย และสมาคมไทยผู้ประกอบธุรกิจเงินร่วมลงทุน (Thai Venture Capital Association) เข้าร่วมจัดบูธด้วย ได้แก่ บริษัท ดิจิโอ (ประเทศไทย) จำกัด ระบบ mobile point of sale (mPOS) สำหรับธนาคารชั้นนำทั้งไทยและต่างประเทศ, บริษัท สมาร์ทคอนแทรคท์ (ไทยแลนด์) จำกัด ระบบสัญญาอิเล็กทรอนิกส์ ด้วยลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ โดยใช้หลักการบันทึกธุรกรรมในบล๊อกเชนเพื่อการเข้าถึงและตรวจสอบได้, บริษัท GB Prime Corporation Co.,Ltd ระบบชำระเงินออนไลน์ และบริษัท GLOBAL FINTECH CO.,LTD. All in one Fintech for SMEs ที่ทำในเรื่องของดิจิทัลเทคโนโลยีเป็นผลิตภัณฑ์ หรือเป็นสินค้า

"ก.ล.ต.ได้ประสานผ่านไปยังสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย, สมาคม VC ซึ่งตรงกับนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการจะให้โอกาสกับ SME ไทย ให้มีโอกาสได้มานำเสนอผลงานของตนเองได้มากขึ้น ก.ล.ต.จึงให้ 2 สมาคมเป็นผู้เลือกบริษัทที่จะมาจัดแสดงงานแห่งนี้ โดยกำหนดให้เลือกมาสมาคมละ 2 บริษัท เพื่อให้มานำเสนอผลิตภัณฑ์ในงาน โดยจะเห็นได้ว่าเป็นบริษัทที่ทำในเรื่องของสมาร์ทคอนแทค และออนไลน์เพย์เม้นต์ รวมถึงแพลตฟอร์มดิจิตอลของธุรกิจเอสเอ็มอี"

สำหรับภายในวันนี้ทางผู้ว่าธนาคารกลางสิงคโปร์ ได้บรรยายพิเศษถึงเรื่องฟินเทค โดยให้คำนิยามไว้ 3I คือ คำว่า Inclusion หรือ การเข้าถึง และครอบคลุม innovation หรือ นวัตกรรม และ Inspiration หรือ แรงบันดาลใจ ทำให้วันนี้การมาออกบูธของก.ล.ต. สะท้อนให้เห็นถึงการทำงานในเชิงรุกด้านการประชาสัมพันธ์ให้เห็นถึงบทบาทของก.ล.ต. โดยเฉพาะเรื่องของการสนุบสนุน การพัฒนา และการทำให้ทุกคนมี Innovative thinking และในส่วนของการกำกับดูแล ก็ต้องทำตามหลักของการทำงาน อย่างไรก็ตามการที่เข้ามาอยู่ HALL 1 เนื่องจากต้องการมีส่วนร่วมกับผู้ประกอบการทั่วโลก

นอกจากนี้ ก.ล.ต.คาดหวังหลังจากมาออกบูธในงานนี้ จะเห็นการทำความรู้จัก การประสานงาน กับคนที่สนใจมากขึ้น โดยตั้งแต่เช้าจนถึงช่วงบ่ายมีผู้ที่สนใจเข้าเยี่ยมชมบูธของก.ล.ต. เป็นจำนวนไม่ต่ำกว่า 50 รายแล้ว ซึ่งจะช่วยทำให้ตลาดทุนไทยอยู่บนพื้นที่ของตลาดทุนโลกได้ และมีศักยภาพมากขึ้น และอยากให้ผู้ที่เข้าร่วมงานทุกราย หลักจากกลับไปแล้วก็นำความรู้จากเวทีวิชาการต่างๆ ไปใช้ประกอบการกำหนดนโยบาย การพัฒนา และกำกับดูแลต่อไป โดยภายในงานมีผู้ประกอบการจัดบูธแสดงผลิตภัณฑ์กว่า 1,000 ราย และมีผู้เข้าร่วมงานกว่า 10,000 ราย

ด้านนางสาวอาชินี ปัทมะสุคนธ์ ผู้อำนวยการ ฝ่ายนโยบายธุรกิจตัวกลาง สำนักงาน ก.ล.ต. กล่าวว่า DLT จะเป็นประโยชน์กับตลาดทุนอย่างมาก เนื่องจากในอดีตตลาดทุนมีการใช้งานเอกสารค่อนข้างมาก และมีการตรวจสอบที่ซ้ำซ้อน รวมถึงบางครั้งก็ยังเกิดการตรวจสอบคลาดเคลื่อน เช่น ขั้นตอนการตรวจสอบต่างๆ เพราะมีขั้นตอนจำนวนมากที่จะต้องทำในตลาดทุนไทย โดยเทคโนโลยีดังกล่าว จะเข้ามาช่วยลดปัญหาความซ้ำซ้อนในการทำงานได้ ซึ่งก.ล.ต.ได้มีการกำหนดเรื่องดังกล่าวไว้อยู่ในแผนยุทธศาสตร์ของก.ล.ต. รวมถึงอยู่ในแผนพัฒนาตลาดทุนไทยร่วมด้วย

ขณะเดียวกันก็จะมีการขอเงินทุนจากกองทุนส่งเสริมการพัฒนาตลาดทุน (CMDF) คาดว่าจะสามารถยื่นเรื่องเสนอของบลงทุนในเดือนธ.ค.62 อย่างไรก็ตามทางก.ล.ต.ยังไม่สามารถเปิดเผยตัวเลขลงทุนได้ โดยก.ล.ต.จะมีการแถลงข่าวพิมพ์เขียว (บลูปริ๊นซ์) ของแคปปิตอลมาร์เก็ตทั้งหมด ในวันที่ 19 พ.ย.นี้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ