นายศรพล ตุลยะเสถียร รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานวางแผนกลยุทธ์องค์กร ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า ณ สิ้นเดือน ต.ค.62 ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทย (SET Index) ปิดที่ 1,601.49 จุด ลดลง 2.2% จากสิ้นเดือนก่อน แต่เพิ่มขึ้น 2.4% จากสิ้นปี 61 มูลค่าซื้อขายเฉลี่ยต่อวันรวมของ SET และ mai อยู่ที่ 52,059 ล้านบาท ลดลง 4.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน ผู้ลงทุนต่างประเทศมีสถานะขายสุทธิ 7,914 ล้านบาทในตลาดหลักทรัพย์ไทย ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาดส่วนใหญ่ในเอเชีย
"ในเดือนตุลาคม ผู้ลงทุนต่างประเทศขายสุทธิด้วยมูลค่าที่ลดลงจากเดือนก่อนเช่นเดียวกับตลาดส่วนใหญ่ในเอเชีย จากความขัดแย้งทางการค้ามีทิศทางที่ผ่อนคลายมากขึ้น การปรับลดดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ ประกอบกับการขยายระยะเวลาการลงมติ Brexit และในช่วง 10 เดือนแรกของปี มูลค่าระดมทุนไทยสูงสุดในภูมิภาคหลังจากการเข้าซื้อขายของ บมจ. แอสเสท เวิรด์ คอร์ป (AWC) ซึ่งมูลค่าระดมทุนสูงสุดในภูมิภาคในปี 2562"นายศรพล กล่าว
นายศรพล กล่าวอีกว่า มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดรวมของ SET และ mai ณ สิ้นเดือน ต.ค.62 อยู่ที่ 17.1 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.3% จากสิ้นปี 61 ซึ่งสอดคล้องกับทิศทางของดัชนี ขณะที่ในช่วง 10 เดือนแรกของปี 62 มูลค่าการระดมทุนในตลาดแรก (IPO) ของไทยอยู่ที่ระดับ 67,071 ล้านบาท
สำหรับกลุ่มเทคโนโลยี กลุ่มเกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร กลุ่มทรัพยากร และกลุ่มบริการ นับว่าให้ผลตอบแทนมากกว่า SET Index ขณะที่ Forward และ Historical P/E ของตลาดหลักทรัพย์ไทย ณ สิ้นเดือน ต.ค.62 อยู่ที่ระดับ 16.6 เท่า และ 18.5 เท่าตามลำดับ สูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดหลักทรัพย์ในเอเชียซึ่งอยู่ที่ระดับ 14.9 เท่า และ 15.9 เท่าตามลำดับ ส่วนอัตราเงินปันผลตอบแทน ณ สิ้นเดือน ต.ค.62 อยู่ที่ระดับ 3.14% สูงกว่าค่าเฉลี่ยของ MSCI Emerging Market ที่อยู่ที่ 2.86%
ด้านภาวะตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า ในเดือน ต.ค.62 มีปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน 375,709 สัญญา ลดลง 1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน