นางสาวโศภชา ดำรงปิยวุฒิ์ ประธานกรรมการบริหาร บมจ.กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง (GUNKUL) เปิดเผยว่า ผลประกอบการงวด 9 เดือนแรกของปีนี้ มีผลกำไรสุทธิ 1,620 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 730 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นถึง 122% เนื่องจากกลุ่มบริษัทมีรายได้จากการขายไฟฟ้า และรายได้ส่วนเพิ่มราคารับซื้อไฟฟ้าเท่ากับ 2,216 ล้านบาท และ 1,156 ล้านบาท ตามลำดับ หากเทียบกับงวดเดียวกันกับปีก่อนเท่ากับ 1,254 ล้านบาท และ 797 ล้านบาท เพิ่มขึ้นรวม 1,321 ล้านบาท หรือคิดเป็น 64%
สำหรับแนวโน้มผลการดำเนินงานช่วงที่เหลือปีนี้ของกลุ่มบริษัท เชื่อว่าน่าจะเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง และมีเสถียรภาพมากยิ่งขึ้น เนื่องจากรับรู้รายได้จากการขายไฟฟ้าเพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัวจากโครงการโรงไฟฟ้ากังหันลมและจากโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่ได้เดินเครื่องผลิตไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) ไปก่อนหน้านี้กว่า 400 เมกะวัตต์ (MW)
ขณะที่บริษัทเตรียมเข้าร่วมประมูลโครงการต่าง ๆ ของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) และการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เพิ่ม คิดเป็นมูลค่างานไม่ต่ำกว่า 5,000 ล้านบาท ซึ่งหากได้งานจะเป็นปัจจัยบวกที่ทำให้ผลการดำเนินงานปีนี้เติบโตได้อย่างมีศักยภาพมากยิ่งขึ้น รวมถึงช่วยสนับสนุนให้งานในมือ (Backlog) เพิ่มขึ้นจากปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 8,000 ล้านบาท จึงทำให้มั่นใจรายได้และกำไรสุทธิในปีนี้จะเติบโตตามเป้าที่ได้ตั้งไว้
อย่างไรก็ตาม บริษัทยังคงมุ่งเน้นการลงทุนด้านพลังงานทดแทนอย่างต่อเนื่อง ทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อให้ได้เป้าหมายเมกะวัตต์สะสมไม่ต่ำกว่า 1,000 เมกะวัตต์ ภายในปี 2564 จากปัจจุบันบริษัทมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) รวมกันแล้วประมาณ 600 เมกะวัตต์
"ผลประกอบการงวด 9 เดือนถือว่าดีเกินคาด เพราะสามารถเติบโตทั้งรายได้และกำไรจากธุรกิจผลิตและจัดหาอุปกรณ์สำหรับระบบไฟฟ้า รวมถึงงานรับเหมาก่อสร้างโรงไฟฟ้าการจำหน่ายไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าโซลาร์เซลล์และโรงไฟฟ้าพลังงานลม รวมถึงการให้บริการด้านบำรุงรักษาโรงไฟฟ้า ซึ่งทุกภาคส่วนช่วยสนับสนุนการเติบโตของบริษัท ส่วนทิศทางไตรมาส 4 เชื่อว่าน่าจะเติบโตได้อย่างต่อเนื่องเช่นกัน โดยบริษัทยังคงมุ่งเน้นเข้าร่วมประมูลงานด้านต่าง ๆ ทั้งภาครัฐและเอกชนอย่างต่อเนื่อง เพื่อผลักดันให้ผลการดำเนินงานในอนาคตเติบโตเพิ่มมากขึ้นตามเป้าหมาย" นางสาวโศภชา กล่าว