SAMART แจงกำไรปี 50 ตกฮวบ เหตุปี49มีกำไรจากขายเงินลงทุน 1.5 พันลบ.

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday February 28, 2008 14:43 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          นายศิริชัย รัศมีจันทร์ รองประธานกรรมการบริหาร บมจ. สามารถคอร์ปอเรชั่น (SAMART) ชี้แจงผลการดำเนินงานรวมสำหรับปี สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2550 ของบริษัท และบริษัทย่อย โดยบริษัทฯ มีรายได้รวม 19,649 ล้านบาทและมีกำไรสุทธิ 574 ล้านบาท เปรียบเทียบกับปี 2549 ที่มีรายได้รวม 31,002 ล้านบาท และกำไรสุทธิ จำนวน 1,990 ล้านบาท 
ผลประกอบการในปี 2549 ที่สูงกว่าในปี 2550 นี้ สาเหตุหลักเกิดจากปี 2549 บริษัทฯ มีกำไรจากการขายเงินลงทุนเป็นจำนวนเงินถึง 1,497 ล้านบาท
รายได้จากการขายสินค้าและบริการของบริษัทฯ ในปี 2550 มีจำนวน 19,132 ล้านบาท เทียบกับปีก่อนจำนวน 29,118 ล้านบาท สาเหตุที่รายได้ลดลงส่วนใหญ่เป็นผลมาจากการลดลงของรายได้ธุรกิจจำหน่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ เนื่องจากบริษัทฯ มุ่งเน้นการขายโทรศัพท์เคลื่อนที่ยี่ห้อ "I-mobile" ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ เอง ในปริมาณที่มากขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา โดยมีราคาขายต่อหน่วยไม่สูงแต่ให้กำไรในอัตราที่สูงกว่ายี่ห้ออื่น
นอกจากนี้ยังได้มีการหยุดรับรู้รายได้จากโครงการไทย-โมบาย อันเป็นผลเนื่องมาจากการหยุดให้บริการระบบจัดเก็บเงิน (Billing System) และการให้บริการลูกค้าสัมพันธ์ (Customer Service) แก่โครงการไทย-โมบาย จากการที่ไทย-โมบายมีหนี้คงค้างตามสัญญาเป็นจำนวนมาก
อย่างไรก็ตาม ธุรกิจการควบคุมจราจรทางอากาศในประเทศกัมพูชา ธุรกิจบริหารจัดการขยะในบริเวณท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และธุรกิจบริการลูกค้าสัมพันธ์ก็ยังคงมีรายได้ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ธุรกิจผลิตและจำหน่ายกระแสไฟฟ้าในประเทศกัมพูชาได้ดำเนินการเต็มกำลังการผลิตและรับรู้รายได้เต็มตามสัญญาแล้ว
ต้นทุนขายและบริการลดลง 9,694 ล้านบาท ส่วนกำไรขั้นต้นสำหรับปี 2550 มีจำนวน 3,034 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 16 ของรายได้ ในขณะที่ปี 2549 มีกำไรขั้นต้น 3,325 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 11 ของรายได้หรืออัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นร้อยละ 5 เมื่อเทียบกับปีก่อนตามเหตุผล ข้อ 2. ข้างต้น
รายได้อื่นลดลง 1,367 ล้านบาท สาเหตุหลักเกิดจากในปีก่อนบริษัทฯ มีกำไรจากการจำหน่ายเงินลงทุนเป็นจำนวนเงินถึง 1,497 ล้านบาท และค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารเพิ่มขึ้น 130 ล้านบาท เนื่องจากการขยายธุรกิจจำหน่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ในต่างประเทศ การดำเนินการเต็มกำลังการผลิตของธุรกิจผลิตและจำหน่ายกระแสไฟฟ้าในประเทศกัมพูชา ด้านภาษีเงินได้นิติบุคคลลดลง 214 ล้านบาท เป็นผลมาจากปีที่แล้วบริษัทฯ มีกำไรจากการขายเงินลงทุน

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ