นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการฯว่า ที่ประชุมอนุมัติกรอบการดำเนินการประมูลคลื่นความถี่ย่าน 5G ย่าน 700 เมกะเฮิร์ตซ์ (MHz) 1800 MHz 2600 MHz และ 26 กิกะเฮิร์ตซ์ (GHz)
หลังจากนี้จะนำร่างประกาศทั้ง 3 ฉบับ ได้แก่ ร่างประกาศ กสทช. เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่สำหรับกิจการโทรคมนาคมเคลื่อนที่สากลย่าน 700 MHz 1800 MHz 2600 MHz และ 26 GHz, ร่างประกาศ กสทช. เรื่อง แผนความถี่วิทยุกิจการโทรคมนาคมเคลื่อนที่สากล (International Mobile Telecommunications - IMT) ย่านความถี่ 2500-2690 MHz และ ร่างประกาศ กสทช. เรื่องแผนความถี่วิทยุกิจการโทรคมนาคมเคลื่อนที่สากล (International Mobile Telecommunications - IMT) ย่านความถี่ 24.25-27 GHz ไปเปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นสาธารณะตั้งแต่วันที่ 13 พ.ย.-12 ธ.ค.62 และคาดว่าจะประกาศลงในราชกิจจานุเบกษาเพื่อให้มีผลบังคับใช้ราววันที่ 27 ธ.ค.62
กสทช.คาดว่าในวันที่ 2 ม.ค.–3 ก.พ.63 จะประกาศเชิญชวนผู้สนใจเข้าร่วมการประมูล และกำหนดให้มีการจัดประมูลคลื่นความถี่ในวันที่ 16 ก.พ.63 รูปแบบการประมูล Multiband Auction จากนั้นจะจัดให้มีการประชุม กสทช.เพื่อรับรองผลการประมูลภายใน 7 วัน ออกใบอนุญาตได้ในเดือน มี.ค.63 และน่าจะเปิดให้บริการได้ภายในเดือน ก.ค.63 เริ่มจากบางพื้นที่
สำหรับคลื่นความถี่ย่าน 700 MHz จำนวน 2x15 MHz นำมาประมูล 3 ใบอนุญาต ใบอนุญาตละ 2x5 MHz ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 8,792 ล้านบาท ต่อ 1 ใบอนุญาต ผู้เข้าร่วมการประมูลต้องวางหลักประกันการมูลเป็นจำนวนเงิน 2,637.60 ล้านบาท เคาะราคาเพิ่มครั้งละ 440 ล้านบาท เป็นใบอนุญาตทั่วประเทศ มีอายุ 15 ปี โดยคลื่นย่านนี้ไม่มีการกำหนดเพดานสูงสุดในการประมูลผู้เข้าร่วมการประมูลสามารถประมูลได้ตามที่ต้องการ สำหรับการชำระเงินค่าประมูลแบ่งการชำระออกเป็น 10 งวด งวดละ 10% ของราคาประมูลสูงสุดที่ชนะการประมูล
ส่วนคลื่นความถี่ย่าน 1800 MHz จำนวน 2x35 MHz นำมาประมูล 7 ใบอนุญาต ใบอนุญาตละ 2x5 MHz ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 12,486 ล้านบาท ต่อ 1 ใบอนุญาต ผู้เข้าร่วมการประมูลต้องวางหลักประกันการมูลเป็นจำนวนเงิน 4,994.40 ล้านบาท เคาะราคาเพิ่มขึ้นครั้งละ 25 ล้านบาท เป็นใบอนุญาตทั่วประเทศ มีอายุ 15 ปี โดยคลื่นย่านนี้ผู้เข้าร่วมการประมูลสามารถประมูลได้สูงสุด 4 ใบอนุญาต การชำระเงินแบ่งเป็น 3 งวด งวดที่ 1 ชำระ 50% ของราคาประมูลสูงสุดที่ชนะการประมูล งวดที่ 2 ชำระ 25% และงวดที่ 3 ชำระอีก 25% โดยร่างหลักเกณฑ์ดังกล่าวยังได้กำหนดเงื่อนไขให้ผู้รับใบอนุญาตต้องดำเนินการให้บริการครอบคลุม 40% ของจำนวนประชากรภายใน 4 ปี และ 50% ของประชากรภายใน 8 ปี
ขณะที่คลื่นความถี่ย่าน 2,600 MHz จำนวน 190 MHz นำมาประมูล 19 ใบอนุญาต ใบอนุญาตละ 10 MHz ราคาเริ่มต้นการประมูล 1,862 ล้านบาท ราคาเริ่มต้นการประมูล 1,862 ล้านบาท ผู้เข้าร่วมการประมูลต้องวางหลักประกันการประมูลเป็นจำนวนเงิน 1,862 ล้านบาท เคาะราคาเพิ่มขึ้นครั้งละ 93 ล้านบาท เป็นใบอนุญาตทั่วประเทศ มีอายุ 15 ปี โดยคลื่นย่านนี้ผู้เข้าร่วมการประมูลสามารถประมูลได้สูงสุด 10 ใบอนุญาต
สำหรับการชำระเงินค่าประมูล ปีแรก ชำระงวดที่ 1 จำนวน 10% ของราคาประมูลสูงสุดที่ชนะการประมูล ปีที่ 2-4 ยกเว้นยังไม่ต้องชำระค่าการประมูล ปีที่ 5-10 (งวดที่ 2-7) ชำระปีละ 15% โดยร่างหลักเกณฑ์ดังกล่าวยังได้กำหนดเงื่อนไขให้ ผู้รับใบอนุญาตต้องดำเนินการให้บริการครอบคลุม 40% ของพื้นที่ EEC ภายใน 1 ปี และ 50% ของพื้นที่เมืองศูนย์กลางทางเศรษฐกิจของพื้นที่ทั้งหมดในแต่ละจังหวัด (กรุงเทพมหานครและปริมณฑล จังหวัดเชียงใหม่ นครราชสีมา ขอนแก่น สงขลา และภูเก็ต) ภายใน 4 ปี
ในส่วนคลื่นความถี่ย่าน 26 GHz จำนวน 2700 MHz นำมาประมูล 27 ใบอนุญาต ใบอนุญาตละ 100 MHz ราคาเริ่มต้นการประมูลมีการปรับเปลี่ยนจากเดิมมูลค่า 300 ล้านบาทต่อ 1 ใบอนุญาต เป็น 423 ล้านบาทต่อ 1 ใบอนุญาต ผู้เข้าร่วมการประมูลต้องวางหลักประกันการมูลเป็นจำนวนเงิน 507.6 ล้านบาท เคาะราคาเพิ่มขึ้นครั้งละ 22 ล้านบาท เป็นใบอนุญาตทั่วประเทศ มีอายุ 15 ปี โดยคลื่นย่านนี้ผู้เข้าร่วมการประมูลสามารถประมูลได้สูงสุด 12 ใบอนุญาต สำหรับการชำระเงินค่าประมูลชำระงวดเดียว เนื่องจากไม่ได้เป็นราคาที่สูง
นายฐากร กล่าวว่า การประมูล 5G ในครั้งนี้ จะใช้วิธีการประมูลคลื่นความถี่หลายย่านพร้อมๆ กัน (Simultaneous Ascending Clock Auction) ด้วย 2 ขั้นตอน ได้แก่ ขั้นตอนการจัดสรรชุดคลื่นความถี่ (Allocation Stage) และขั้นตอนการกำหนดย่านความถี่ (Assignment Stage)