นายสุเมธ ดำรงชัยธรรม กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.การบินไทย (THAI) ตาดว่า ในปีนี้ทั้งสายการบินการบินไทยและสายการบินไทยสมายล์ ที่ THAI ถือหุ้น 100% จะมีผลประกอบการรวมกันขาดทุนลดลงมาที่ 2.0-2.2 พันล้านบาท จากปีก่อนที่มีผลขาดทุนรวม 3.6-3.7 พันล้านบาท และมั่นใจว่าในปีหน้าจะสามารถหยุดการขาดทุนได้
ขณะที่ บมจ.สายการบินนกแอร์ (NOK) ที่คาดว่าจะยังประสบผลขาดทุน ไม่ค่อยได้รับผลกระทบเพราะ THAI ถือหุ้นต่ำกว่า 20%
ทั้งนี้ การบินไทยขายตั๋วโดยสารให้กับไทยสมายล์ที่มีจุดเชื่อมต่อเที่ยวบินเข้ามาในประเทศ นอกจากนี้ การบินไทยก็ยังมีความร่วมมือในกลุ่ม THAI Group ที่มีสายการบินนกแอร์ และสายการบินบางกอกแอร์เวย์ (BA) ก็มีความร่วมมือด้านการตลาด และเชื่อมต่อเที่ยวบินกันได้ ซึ่งกรณีของ NOK อาจจะต้องพิจารณาแนวทางความร่วมมืออีกครั้ง เพราะมีสนามบินหลักอยู่คนละที่ แต่ก็ยังสามารถมีความร่วมมือด้านอื่น อาทิ การซ่อมบำรุงอากาศยาน เจรจาซัพพลายเออร์
นายสุเมธ กล่าวว่า ในปี 63 THAI คาดจะเพิ่มปริมาณการผลิตด้านผู้โดยสาร (ASK) ได้อีก 2-3% จากการเพิ่มจำนวนชั่วโมงการใช้เครื่องบิน โดยจะเพิ่มชั่วโมงการใช้เครื่องบินจาก 12 ชม/ลำ/วัน เป็น 12.15 ชม./ลำ/วัน หรือเต็มที่ไม่เกิน 12.30 ชม./ลำ/วัน ขณะที่ไทยสมายล์จาก 8.15 ชม./ลำ/วัน จะเพิ่มเป็น 10.30 ชม./ลำ/วัน เชื่อว่าจะช่วยเพิ่ม capacity ได้บ้างในช่วงที่การบินไทยยังไม่สามารถมีเครื่องบินใหม่เข้ามา
ปัจจุบัน THAI มีจำนวนฝูงบิน 102 ลำ แบ่งเป็นของไทยสมายล์ 20 ลำ ส่วนที่เหลือ 82 ลำ การบินไทยใช้ได้จริง 74 ลำ
อย่างไรก็ดี การบินไทยจะมีเครื่องบินใหม่ที่ทำการเช่าซื้อไว้ก่อนหน้าเข้ามาใหม่ เป็นเครื่องบินโบอิ้ง 777-300ER จำนวน 3 ลำ โดยจะรับมอบในไตรมาส 4/63 เพื่อรองรับในเส้นทางยุโรป และมีแผนเปิดจุดบินใหม่ที่เมืองแมนเชสเตอร์ของอังกฤษในปี 63
นายสุเมธ กล่าวว่า การบินไทยตั้งเป้ามีอัตราส่วนบรรทุกผู้โดยสาร (Load Factor) ในปี 63 ไม่ต่ำกว่า 80% จากปีนี้ที่คาดทำได้ใกล้เคียง80% และคาดว่ากำไรต่อหน่วย (Yield) ปีหน้าจะดีกว่าปีนี้ เพราะจะไม่แข่งขันราคา แต่จะเน้นการทำการตลาดแบบเพิ่มความคุ้มค่ามากกว่า (Value Added) แม้ว่าปีหน้าจะเพิ่มจำนวนผู้โดยสารไม่ได้มากเพราะข้อจำกัดเรื่องเครื่องบิน
"Load Factor ปีนี้เราได้เกือบ 80% ไม่ถือว่าแย่ แต่ที่แย่คือ Yield ในปีหน้าเราคงไม่แข่งขันราคา ดังนั้น Yield จะดีกว่าปี 62ซึ่งเป็นผลจากเงินบาทแข็งค่าและการแข่งขันราคาทำให้ราคาลงมามาก"นายสุเมธ กล่าว
นายสุเมธ กล่าวว่า ในปี 63 จะให้ความสำคัญกับ รอยัล ออคิด พลัส (ROP) ที่มีสมาชิกกว่า 3 ล้านคน แต่ active อยู่ 6-8 แสนราย ตั้งเป้าปีหน้าจะเพิ่มเท่าตัวเป็น 1.2-1.6 แสนราย อาจจะใช้เงินสดร่วมกับไมล์แลกตั๋วโดยสาร รวมทั้งการช้อปปิ้งออนไลน์ของการบินไทยจะใช้ไมล์สะสมมาแลกซื้อได้ ทั้งนี้ ROP จะใช้เป็นกลไกราคาให้เกิดประโยชน์กับสมาชิกเพื่อรักษาฐานลูกค้าเดิม และเพิ่มลูกค้าใหม่
นอกจากนี้ จะทำแคมเปญ"บินกับเขากลับกับเรา"โดยให้สิทธิประโยชน์ผู้โดยสารมีน้ำหนักบรรทุกได้สูงถึง 50 กก. ถ้าใช้เที่ยวกลับที่เซนไดกลับกรุงเทพ เป็นต้น
นายสุเมธ กล่าวว่า การบินไทย ยังร่วมมือกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ในโอกาสที่ทั้ง 2 หน่วยงานรัฐวิสาหกิจครบรอบ 60 ปีในปี 63 จัดแคมเปญดึงนักท่องเที่ยวต่างชาติ ครอบคลุมนักเดินทางทุกกลุ่ม อาทิ กลุ่มซิลเวอร์ เอจ (Silver Age) กลุ่มมิลเลนเนียม (Millennium) กลุ่มเจนเอ็กซ์ (GEN X) เป็นต้น ให้เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย เพื่อเป็นการสร้างรายได้เข้าประเทศ ตลอดปี 63
นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ ททท. กล่าวว่าความร่วมมือ 2 หน่วยงานมีเป้าหมายเดียวกัรที่จะนำนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาท่องเที่ยวประเทศไทยให้เป็นไปตามนโยบานรัฐบาลที่ตั้งเป้า 41.8 ล้านคนในปี 63 จากปีนี้ 39.8 ล้านคน. โดยเริ่มเชิญชวนให้นักท่องเที่ยวเข้ามาเคาน์ดาวในไทย. และเน้นนักท่องเที่ยวจีน ในช่วงเทศกาลตรุษจีนในวันที่ 25 ม.ค.63
สำหรับเป้าหมายเชิงการตลาดในปี 63 ททท. จะรักษาตำแหน่งประเทศที่สร้างรายได้จากการท่องเที่ยวติดอันดับ 1 ใน 6 ของโลก สร้างรายได้รวมเพิ่มขึ้น 10% หรือประมาณ 3.71 ล้านล้านบาท ซึ่งเกิดจากรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติ 2.431 ล้านล้านบาท ในขณะที่รายได้จากนักท่องเที่ยวชาวไทย 1.287 ล้านล้านบาท และมีเป้าหมายด้านการสร้างความยั่งยืนให้กับการท่องเที่ยวเพิ่มเติม ซึ่งจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วน เมื่อได้พันธมิตรที่เน้นแฟ้นอย่างการบินไทยเช่นนี้ มั่นใจมากว่าเป้าหมายในปีที่ ททท. ครบ 60 ปี จะประสบความสำเร็จได้อย่างแน่นอน
ทั้งนี้ ความร่วมมือในส่วนของ ททท. จะให้การสนับสนุนกิจกรรมเชิงการตลาด อาทิ สนับสนุนข้อมูลเชิงลึกของกิจกรรมทางการท่องเที่ยวที่ ททท. ดำเนินการ โดยเฉพาะกิจกรรมที่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติให้ความสนใจ อาทิ Amazing Thailand Marathon Bangkok (2 ก.พ.63) ไหว้ครูมวยไทยโลก (17 มี.ค.ของทุกปี) The Great Mekong Bike Ride การชมการแข่งขันกีฬาระดับนานาชาติ อาทิ LPGA MotoGP เป็นต้น เพื่อให้การบินไทยสามารถเสนอขายแพ็กเกจให้กับนักท่องเที่ยวได้ตรงกลุ่มความสนใจเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ ได้
อีกทั้งการเชื่อมต่อกิจกรรมที่สามารถสร้างมูลค่าให้กับการท่องเที่ยวร่วมกัน เช่น เชื่อมโครงการ Amazing Thailand Grand Sale กับโครงการ THAI Pass Plus ซึ่งเป็นโครงการที่ดำเนินการในช่วง Green Season เพื่อเพิ่ม สิทธิประโยชน์ให้กับนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างประเทศให้มากขึ้น รวมไปถึงสนับสนุนการประชาสัมพันธ์และข้อมูล โครงการต่างๆ ที่การบินไทยดำเนินการอันจะเป็นกิจกรรมที่สนับสนุนซึ่งกันและกัน เพื่อดึงนักท่องเที่ยวเข้ามาสัมผัสประสบการณ์ที่น่าประทับใจในประเทศไทยต่อไป
ขณะที่การบินไทย ได้เตรียมของขวัญพิเศษสำหรับผู้โดยสารและนักท่องเที่ยวที่เข้ามาประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นแพ็กเกจท่องเที่ยวจาก รอยัล ออร์คิด ฮอล์ลิเดย์ (ROH) ที่จัดแพ็กเกจต่างๆ ครอบคลุมนักท่องเที่ยวทุกกลุ่มเป้าหมาย อาทิ แพ็กเกจ 60 Days Countdown Hot Offer มอบของขวัญให้ลูกค้าการบินไทยและนักท่องเที่ยว ที่เดินทางเข้าประเทศไทยระหว่างวันที่ 1 มี.ค.-1 พ.ค.63 จะได้รับแพ็กเกจท่องเที่ยวในราคาพิเศษ รวมถึงแพ็กเกจ Explore the Unexplore Thailand โดยการบินไทยร่วมกับไทยสมายล์ จัดการเดินทางท่องเที่ยวแบบไร้รอยต่อ เพื่อเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ ให้นักท่องเที่ยวอย่างสะดวกสบายและไร้กังวล และแพ็คเกจ Customize Tour Experience ที่เน้นการปรับแต่งทริปพิเศษให้เฉพาะลูกค้าแต่ละท่าน