นายกิติชาญ ศิริสุขอาชา ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์รายย่อย บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะปรับฐานลง ในทิศทางเดียวกับตลาดต่างประเทศ โดยตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ต่างเคลื่อนไหวในแดนลบ เช่นเดียวกับดาวโจนส์ฟิวเจอร์ส ภายหลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ได้กล่าวในการประชุม Economic Club of New York ในทำนองว่า สหรัฐฯจะยังเดินหน้าปรับขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากจีน หากไม่มีการบรรลุข้อตกลงการค้าระหว่างกันในขั้นแรกได้
นอกจากนี้ ยังมีความกังวลเกี่ยวกับสัญญาณที่บ่งชี้ว่าจีนจะเข้าไปจัดการสถานการณ์ความไม่สงบในฮ่องกงด้วย ส่วนบ้านเรายังต้องติดตามการทยอยประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในช่วงโค้งสุดท้าย
พร้อมให้แนวรับ 1,615 จุด ส่วนแนวต้าน 1,633 จุด
ประเด็นพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (12 พ.ย.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ระดับ 27,691.49 จุด ไม่เปลี่ยนแปลงจากระดับของวันจันทร์ ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,091.84 จุด เพิ่มขึ้น 4.83 จุด (+0.16%) และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 8,486.09 จุด เพิ่มขึ้น 21.81 จุด (+0.26%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 80.76 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 1.80 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 304.12 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน ลดลง 37.13 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ลดลง 8.44 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ลดลง 8.95 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 1.15 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ ลดลง 23.56 จุด
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (12 พ.ย.62) 1,626.20 จุด เพิ่มขึ้น 4.08 จุด (+0.25%)
- นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 2,019.17 ล้านบาท เมื่อวันที่ 12 พ.ย.62
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ธ.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (12 พ.ย.62) ปิดที่ 56.80 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 6 เซนต์ หรือ 0.1%
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (12 พ.ย.) อยู่ที่ 1.73 ดอลลาร์/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 30.34 ทรงตัวจากเย็นวานนี้, รอดูถ้อยแถลงประธานเฟดคืนนี้
- ปตท.ประกาศเป็นผู้กำหนดราคาน้ำมันโลก จับมือ 9 พันธมิตรต่างชาติ ตั้งบริษัททำแพลตฟอร์มประกาศดัชนีราคา พร้อมตั้งออฟฟิศในสหรัฐ เพิ่มนำเข้าจากอเมริกา 1 แสนบาร์เรล/วัน หวังช่วยรัฐบาลแก้ปัญหาถูกขู่ตัดจีเอสพี
- ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า ในวาระครบ 60 ปี ในปี 2563 ของทั้ง 2 หน่วยงาน คือ ททท. และบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) จึงตกลงจะทำตลาดร่วมกันทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยมีการกำหนดเป้าหมายร่วมกันในทำงาน พร้อมเพิ่มเป้าหมายนักท่องเที่ยวต่างชาติให้ถึง 41.8 ล้านคนในปี 2563 ตามที่รัฐบาลตั้งเป้าหมายไว้ รวมถึงจะรักษาตำแหน่งประเทศที่สร้างรายได้จากการ ท่องเที่ยวติดอันดับ 1 ใน 6 ของโลก สร้างรายได้รวมเพิ่มขึ้น 10% หรือประมาณ 3.71 ล้านล้านบาท แบ่งเป็นรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติ 2.431 ล้านล้านบาท และจากนักท่องเที่ยวไทย 1.287 ล้านล้านบาท และมีเป้าหมายการสร้างความยั่งยืนให้กับการท่องเที่ยวด้วย
- กสทช.เห็นชอบหลักเกณฑ์การประมูลคลื่น 5G และให้นำไปรับฟังความคิดเห็นสาธารณะ วันที่ 13 พ.ย.-12 ธ.ค.62 โดยให้ปรับราคาตั้งต้นการประมูลคลื่นความถี่ย่าน 26GHz จาก 300 ล้านบาท เป็น 423 ล้านบาท พร้อมทั้งอนุมัติกรอบการดำเนินการประมูลคลื่นความถี่ย่าน 5G
- ครม. คลอดโครงการ "ชิม ช้อป ใช้" เฟส 3 ตั้งเป้าประชาชนลงทะเบียน 2 ล้านคน ต่อเนื่องจากเฟสที่ 1 และเฟสที่ 2 รวมแล้ว 15 ล้านคน หลังจากพบว่าประชาชนให้การต้อนรับสูงมากแต่เฟสที่ 3 ไม่มีการแจกเงินให้เหตุหวั่นงบประมาณบานปลาย ทะลุเกิน 19,000 ล้านบาท
*หุ้นเด่นวันนี้
- ACE (บมจ.แอ๊บโซลูท คลีน เอ็นเนอร์จี้) เทรดวันนี้วันแรก ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) สังกัดในกลุ่มอุตสาหกรรมทรัพยากร หมวดธุรกิจพลังงานและสาธารณูปโภค ราคาขาย IPO 4.40 บาท/หุ้น โดย ACE เป็น Holding company ที่ลงทุนในบริษัทที่ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าและไอน้ำ และธุรกิจอื่นที่สนับสนุนหรือเกี่ยวเนื่อง ปัจจุบันมีโครงการที่เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์แล้วรวม 13 โครงการ
บริษัทฯ และบริษัทย่อย ประกาศผลดำเนินงานงวดไตรมาส 3/62 มีกำไรสุทธิ 228.1 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 0.02 บาท เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 111.83 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 0.01 บาท
- CPALL (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 97 บาท กำไร Q3/62 ดีตามที่คาด อยู่ที่ 5,612 ล้านบาท +17% Q-Q, +8% Y-Y แต่ดีกว่าตลาดคาดราว 4-5% หากไม่รวมรายจ่ายพนักงานใน Q2/62 กำไรปกติจะ +5% Q-Q, +10% Y-Y เป็นไตรมาสที่ดีตาม MAKRO และการทำ stamp promotion ด้านกำไรสุทธิ 9M62 +5% Y-Y แนวโน้ม Q4/62 จะโตต่อตามฤดูกาล โดยยังคงคาดกำไรทั้งปี +8% Y-Y เป็น 2.26 หมื่นล้านบาท ปีหน้าโตเร่งตัวขึ้น +14% Y-Y เป็น 2.56 หมื่นล้านบาท จาก SSSG ที่คาดโต 2-3% การเปิดสาขาใหม่ การฟื้นตัวของรายได้ค่าธรรมเนียม และได้ประสิทธิภาพเต็มที่จากบุคลากรที่ทยอยเพิ่มในปีนี้
- ADVANC (กรุงศรี) "ซื้อ"เป้า 260 บาท ปลอดภัยจาก Trade war, มีมุมมองเป็นบวกจากการเปิดประมูลคลื่น 5G ของภาครัฐ ซึ่งมีกฏเกณฑ์ที่ผ่อนคลายมากกว่าเมื่อเทียบกับประมูลคลื่น 4G อาทิ ราคาประมูลตั้งต้นที่ลดลง, Term การจ่ายเงินที่ผ่อนคลาย ทำให้ไม่กระทบ Cash flow ของผู้ประกอบการรวมถึงการจ่ายปันผล โดยยังเลือก ADVANC เป็น Top pick ของกลุ่ม