ตลาดหุ้นไทยต้นภาคบ่ายไหลลงต่อไปเป็นกว่า 10 จุด ตามแรงขายหุ้นขนาดใหญ่ โดยทิศทางเป็นไปตามตลาดหุ้นต่างประเทศที่เผชิญแรงขายหลังจากวิตกความไม่ชัดเจนของการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีน ขณะที่เกิด Sentiment เชิงลบจากกรณีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ขี้มูลความผิด บมจ.มจ.ชิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนต์ คอนสตรัคชั่น (STEC) และผู้บริหารระดับสูง 2 ราย กรณีเข้าไปเกี่ยวข้องกับสินบนท่าเรือโรงไฟฟ้าขนอม
เมื่อเวลา 14.50 น. ดัชนี SET มาอยู่ที่ 1,614.61 จุด ลดลง 11.59 จุด (-0.71%)
ล่าสุดเมื่อเวลา 15.02 น.ดัชนี SET อยู่ที่ 1,614.96 จุด ลดลง 11.24 จุด (-0.69%)
นายชัยยศ จิวางกูร ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กรุงศรี กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยในช่วงบ่ายนี้ปรับตัวลงกว่า 10 จุด เป็นไปตาม Sentiment ตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่ต่างปรับตัวลงกัน หลังจากมีความไม่แน่นอนการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน
นอกจากนี้ ในช่วงบ่ายนี้มีการแถลงข่าวของ ป.ป.ช.ที่มีมติชี้มูลความผิดเจ้าหน้าที่รัฐ 4 ราย กรณีร่วมกันเรียกรับเงิน 20 ล้านบาทจากบริษัทญี่ปุ่นที่รับว่าจ้างก่อสร้างโรงไฟฟ้าขนอม จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งมีผู้บริหารของ STEC เข้าไปเกี่ยวข้องด้วย ทำให้มีผลกระทบต่อ Sentiment ตลาดโดยรวม จากที่หุ้น STEC ปรับตัวลงแล้วไปฉุดหุ้นตัวอื่นไปด้วย
พร้อมให้แนวรับ 1,610-1,600 จุด ส่วนแนวต้าน 1,620 จุด