นายพุฒิพงศ์ ปราสาททองโอสถ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.การบินกรุงเทพ (BA) เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ในไตรมาส 3/62 ว่า บริษัทมีรายได้รวม 6,698.9 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 65.9 ล้านบาท โดยกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 66.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็นผลมาจากการเติบโตของรายได้ของธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจสนามบินและกลุ่มธุรกิจที่เกี่ยวข้อง รวมถึงรายได้ที่ไม่ได้แบ่งตามสายธุรกิจ และค่าใช้จ่ายหลักๆ ของธุรกิจสายการบินที่ปรับลดลง
ทั้งนี้ ไตรมาส 3/62 บริษัท ครัวการบินกรุงเทพ จำกัด (BAC) มีจำนวนสายการบินลูกค้าเพิ่มขึ้น 2 สายการบิน ทำให้ปัจจุบันมีจำนวนลูกค้าสายการบินทั้งสิ้น 21 สายการบิน บริษัท บริการภาคพื้นการบินกรุงเทพเวิลด์ไวด์ไฟลท์เซอร์วิส จำกัด (BFS Ground) มีจำนวนสายการบินลูกค้าเพิ่มขึ้น 8 สายการบิน ทำให้ปัจจุบันมีจำนวนลูกค้าสายการบินทั้งสิ้น 84 สายการบิน บริษัท ดับบลิวเอฟเอสพีจี คาร์โก้ จำกัด (WFS-PG Cargo) มีจำนวนสายการบินลูกค้าเพิ่มขึ้น 6 สายการบิน ทำให้ปัจจุบันมีจำนวนลูกค้าสายการบินทั้งสิ้น 74 สายการบิน"
สำหรับผลประกอบการงวด 9 เดือนของปี 62 บริษัทมีรายได้รวมอยู่ที่ 20,540.2 ล้านบาท ลดลง 2.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 61 ซึ่งเป็นผลมาจากรายได้จากธุรกิจสายการบินและธุรกิจสนามบิน ซึ่งปรับตัวลดลง 6.9% และ 9.7% ตามลำดับ ในขณะที่รายได้จากธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจสนามบินและกลุ่มธุรกิจที่เกี่ยวข้อง รวมถึงรายได้ที่ไม่ได้แบ่งตามสายธุรกิจ เติบโตขึ้น 6.7% และ 22.1%
ขณะที่จำนวนผู้โดยสารในงวด 9 เดือนของปี 62 ปรับตัวลดลง 1.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 61 ซึ่งเป็นผลมาจากสัดส่วนจุดขายบัตรโดยสาร (Point-of-Sale) ในไทยและช่องทางอีคอมเมิร์ซปรับตัวลดลง โดยสัดส่วนจุดขายบัตรโดยสาร (Point-of-Sale) ส่วนใหญ่มาจากต่างประเทศ ซึ่งผู้โดยสารโดยหลักมาจากทวีปยุโรปและทวีปเอเชีย (ยกเว้นประเทศไทย) โดยในทวีปเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีจำนวนผู้โดยสารเติบโตสูงที่สุด ซึ่งเติบโต 23% ทวีปอเมริกาเหนือเติบโต 10% และทวีปเอเชียใต้เติบโต 3%
ทั้งนี้ ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 62 บริษัทรายงานผลขาดทุนสุทธิเท่ากับ 121.3 ล้านบาท โดยเป็นขาดทุนสุทธิส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ เท่ากับ 131.5 ล้านบาท ขาดทุนต่อหุ้นเท่ากับ 0.06 บาท
"ในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา บริษัทดำเนินการปรับเปลี่ยนและย้ายระบบที่ให้บริการผู้โดยสาร (Passenger Service System) เมื่อเดือน ก.ค.62 เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการผู้โดยสาร และในเดือน ส.ค.62 บริษัทได้ลงนามข้อตกลงในการให้บริการเที่ยวบินร่วมกับสายการบินเตอร์กิชแอร์ไลน์ เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้โดยสารในการเดินทางเชื่อมต่อจากกรุงเทพฯ (สุวรรณภูมิ) ผ่านเที่ยวบินของบริษัทไปยังแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมทั้งในประเทศไทยและประเทศในกลุ่ม CLMV (กัมพูชา ลาว เมียนมาร์ เวียดนาม)
ปัจจุบัน บริษัทมีจำนวนสายการบินพันธมิตรเป็นจำนวนทั้งสิ้น 27 สายการบิน และในช่วงเดียวกัน บริษัทได้เปิดให้บริการห้องรับรองผู้โดยสารแห่งใหม่ ณ ท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต เพื่อให้บริการแก่ผู้โดยสารขาออกภายในประเทศ