LVT แจงปี 50 พลิกเป็นกำไร รับรายได้จากงานสัญญาการให้บริการเพิ่มขึ้น

          นายปีเตอร์ เคียร์คีแทป กรรมการผู้จัดการ บมจ. แอล.วี.เทคโนโลยี (LVT) ชี้แจงผลการดำเนินงานประจำปี 2550 สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2550 ของบริษัท และบริษัทย่อย ซึ่งได้รับการตรวจสอบจากผู้สอบบัญชีรับอนุญาตแล้ว บริษัทและบริษัทย่อยมีผลกำไรสุทธิจากการดำเนินงานประจำปี 2550 จำนวน 62.79 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 95.46 ล้านบาทจากปีก่อน ซึ่งมีผลขาดทุนสุทธิ 32.67 ล้านบาท คิดเป็นเพิ่มขึ้นร้อยละ 292.19 มีสาระสำคัญดังนี้
          รายได้จากสัญญาการให้บริการของบริษัท ในปี 2550 จำนวน 475.43 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 106.60 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 28.90 ซึ่งส่วนใหญ่มาจากรายได้ตามสัญญาการให้บริการงานโครงการ NSCI ประเทศมาเลเซีย จำนวน 128.45 ล้านบาท จากงานโครงการ Cementos Yura I ประเทศเปรู จำนวน 32.69 ล้านบาท โครงการ  Hamma Bouzaine ประเทศแอลจีเรีย จำนวน 52.12 ล้านบาท โครงการ Dewan Cement และ Fecto Cement ประเทศปากีสถาน จำนวน 21.75 ล้านบาท, 13.31 ล้านบาทตามลำดับ
          บริษัทมีกำไรขั้นต้นจำนวน 170.19 ล้านบาทเปรียบเทียบกับปีก่อนซึ่งมีกำไรขั้นต้น 67.49 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 102.70 ล้านบาท คิดเป็นเพิ่มขึ้นร้อยละ 152.17 สืบเนื่องจากรายได้จากงานสัญญาการให้บริการที่เพิ่มขึ้นดังกล่าวแล้ว
          ส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนโดยวิธีส่วนได้เสียในงบการเงินรวมประจำปี 2550 จำนวน 40.70 ล้านบาท ประกอบด้วยส่วนแบ่งกำไรจาก บริษัท แอล.เอ็น.วี เทคโนโลยี ไพรเวท จำกัด 38.24 ล้านบาท และส่วนแบ่งกำไรจากบริษัท บีแอลวีที 3.89 ล้านบาท และส่วนแบ่งขาดทุนจากบริษัท แอลวี เทียนจิน จำกัด 1.43 ล้านบาท
          ทั้งนี้ บริษัทตั้งสำรองภาษีเงินได้และค่าเบี้ยปรับเงินเพิ่มจากการดำเนินธุรกิจ และร่วมทุนใน บี  แอลวีที แอลแอลซี ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้แก่ภาษีเงินได้จำนวน 7.92 ล้านบาทและเบี้ยปรับเงินเพิ่มจำนวน 3.95 ล้านบาท ซึ่งคิดจากส่วนแบ่งกำไรในปี 2549 และ 2550 เนื่องจากบี แอลวีที แอลแอลซี ไม่ได้หัก ณ ที่จ่ายไว้ และนำส่งภาษีสำหรับส่วนแบ่งกำไรส่วนที่บริษัทได้รับในงวดสองปีดังกล่าว บริษัทจะหารือร่วมกับหุ้นส่วนที่ร่วมลงทุนในบีแอลวี ที แอลแอลซี อีกสองราย เพื่อหาแนวทางร่วมกันรับภาระภาษีดังกล่าวต่อไปในปี 2551