(เพิ่มเติม) AWC กางแผนลงทุนเพิ่มเป็นกว่า 1 แสนลบ.ใน 5 ปี ผุดโครงการมิกซ์ยูสพัทยา 2 หมื่นลบ.ดึงเชนแมริออทบริหาร

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday November 14, 2019 16:09 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นางวัลลภา ไตรโสรัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ. แอสเสท เวิรด์ คอร์ป (AWC) กล่าวว่า บริษัทจะใช้งบลงทุน 2 หมื่นล้านบาทเพื่อลงทุนโครงการ AWC CENTER PATTAYA ซึ่งเป็นโครงการมิกซ์ยูสระดับเวิล์ดคลาสเทียบชั้นดูไบ ประกอบด้วย โรงแรมเจดับบลิว แมริออท เดอะ พัทยา บีชรีสอร์ท แอนด์ สปา และ โรงแรม พัทยา แมริออท มาร์ดีส์ รวม 1,268 ห้อง รวมทั้งแหล่งช้อปปิ้งและแหล่งท่องเที่ยว (Attraction) ที่มีธีมเรื่องเล่านิทานไทยด้วยความร่วมมือกับพันธมิตรระดับโลก ซึ่งมีร้านค้าและภัตตาคาร 11 แห่ง พร้อมด้วยพื้นที่สำหรับงานจัดเลี้ยง ประชุม สัมมนากว่า 10,000 ตารางเมตร

บริษัทจะเริ่มการก่อสร้างโครงการ AWC CENTER PATTAYA บนพื้นที่ 16 ไร่ ตั้งอยู่ใจกลางพัทยา โดยในส่วนโรงแรมเจดับบลิว แมริออท เดอะ พัทยา บีชรีสอร์ท แอนด์ สปา และ โรงแรม พัทยา แมริออท มาร์ดีส์ ที่จะสร้างใหม่คาดว่าจะใช้เวลามากกว่า 5ปี แต่จะเปิดบริการในส่วนของช้อปปิ้งเซ็นเตอร์ก่อน โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จใน 4 ปีข้างหน้าเพื่อเริ่มรับรู้รายได้ก่อน ส่วนของโรงแรม 2 แห่งจะอยู่ในตึกเดียวกันที่มีความสูงถึง 60 ชั้น

นางวัลลภา กล่าวว่า โครงการดังกล่าวจะกลายเป็นแลนด์มาร์คใหม่แห่งใหม่ของพัทยา รองรับนักเดินทางกลุ่มไมซ์และนักท่องเที่ยวที่มีการเติบโตต่อเนื่อง จากการที่ไทยเป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวทั่วโลก และยังเห็นศักยภาพที่ดีของอุตสาหกรรมไมซ์ของไทยที่มีอัตราการเติบโตโดยเฉลี่ย 47.6% ตลอดช่วง 5 ปีที่ผ่านมา สอดรับกับการพัฒนาโครงการสาธารณูปโภคภาครัฐ ได้แก่ โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน(สุวรรณภูมิ-ดอนเมือง-อู่ตะเภา)

นางวัลลภา กล่าวอีกว่า บริษัทเตรียมขยายการลงทุนทั้งโรงแรมและโครงการมิกซ์ยูสอีก 4.8 หมื่นล้านบาท ระยะลงทุนมากกว่า 5 ปี เพิ่มเติมจากที่คณะกรรมการบริษัทที่อนุมัติงบลงทุนตามแผน 5 ปี (ปี 63-67) จำนวน 5.5 หมื่นล้านบาทเมื่อวานนี้ ทั้งนี้ คาดว่าจะเสนอขออนุมัติงบลงทุนต่อคณะกรรมการและที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้น (AGM) ภายในปี 63

สำหรับงบลงทุนโครงการ AWC CENTER PATTAYA จำนวน 1.4 หมื่นล้านบาทได้รวมในงบแผนลงทุน 5.5 หมื่นล้านบาท ส่วนที่เหลือเตรียมขออนุมัติงบลงทุนเพิ่มเติม นอกจากนี้ยังมีแผนงานขยายโรงแรมและโครงการมิกซ์ยูสที่อยู่ระหว่างการศึกษาที่เตรียมขออนุมัติจากคณะกรรมการเพิ่มเติม ได้แก่ โรงแรมใกล้เอเชียทีค ขนาด 800 ห้อง มูลค่า 7 พันล้านบาท และขยายพื้นที่ข้างเอเชียทีคอีก 20 ไร่ ซึ่งได้ตกลงเบื้องต้นในการซื้อขายที่ดินแล้ว โดยมีแผนจะมีร้านอาหารและภัตตาคาร และแหล่งท่องเที่ยว (Attraction) เพิ่มเติมจากที่มีอยู่ในเอเชียทีค

ขณะที่แผนลงทุน 5 ปี ภายใต้งบลงทุนเดิมที่ 5.5 หมื่นล้านบาท จะลงทุนและปรับปรุงโรงแรมใหม่อีก 13 แห่ง จำนวนรวม 4,085 ห้อง จากเดิมที่มีโรงแรมอยู่แล้ว 14 แห่ง ห้องพักรวม 4,421 ห้อง ซึ่งจะทำให้ AWC มีโรงแรมที่เปิดให้บริการทั้งสิ้นรวม 27 แห่ง จำนวนห้องพักรวม 8,506 ห้องภายในสิ้นปี 68

ทั้งนี้ โรงแรมที่อยู่ระหว่างการพัฒนา ได้แก่ โรงแรมบันยันทรี กระบี่, โรงแรมทำเลเจริญกรุง 93, โรงแรมอิมพีเรียล แม่ปิง, โรงแรมแกรนด์ โซเล, โรงแรมบันยันทรี จอมเทียน พัทยา เป็นต้น

ในวันนี้ AWC ลงนามสัญญากับ แมริออท อินเตอร์เนชั่นแนล ว่าจ้างให้บริหารโรงแรม 3 แห่ง ได้แก่ โรงแรม เจดับบลิว แมริออท เดอะ พัทยา บีชรีสอร์ท แอนด์สปา, โรงแรม พัทยา แมริออท มาร์ดีส์ และ โรงแรม คอร์ทยาร์ด แมริออท ภูเก็ต ทาวน์ มีห้องพักรวม 1,546 ห้อง

นางวัลลภา กล่าวว่า โรงแรมทั้งสองแห่งจะอยู่ภายในอาคารเดียวกัน แต่ละแห่งมีกลุ่มเป้าหมายต่างกัน โดยโรงแรม ดับบลิว แมริออท เดอะ พัทยา บีชรีสอร์ท แอนด์ สปา จะเน้นนักท่องเที่ยวระดับหรู ส่วนโรงแรม พัทยา แมริออท มาร์ดีส์ เน้นเจาะลูกค้าที่ต้องการห้องประชุม สัมมนา และต้องการที่พักสะดวกสบาย

ขณะที่โรงแรม คอร์ทยาร์ด แมริออท ภูเก็ต ทาวน์ จะเป็นการปรับปรุงโรงแรมเดอะเมโทรโพล ภูเก็ต ที่ตั้งใจอยู่กลางเมืองภูเก็ต ด้วยห้องพัก 248 ห้อง มีภัตตาคารและร้านอาหาร 2 แห่ง และพื้นที่จัดประชุมสัมมนากว่า 2,000 ตารางเมตร ซึ่งบริษัทได้ใส่งบปรับปรุงประมาณ 500 ล้านบาท คาดว่าจะเปิดบริการได้ในอีก 2 ปี

ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ AWC มองว่า ปี 63 แนวโน้มการเติบโตของธุรกิจไมซ์ในไทยยังเติบโตอีกมาก ซึ่งปัจจุบันมีหลายหน่วยงานได้เลือกมาประชุมและสัมมนาที่ไทยมากขึ้น จากที่เคยมีฮ่องกงและสิงคโปร์เป็นอันดับต้นๆ ขณะที่อุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย คาดว่าในปีหน้าน่าจะเติบโตมากกว่าปีนี้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ