โบรกเกอร์ แนะนำ "ซื้อ"หุ้นบมจ.ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ (BEM) คาดจำนวนผู้โดยสารจะเพิ่มขึ้นอีกในช่วงที่เหลือของปีนี้ จากการเปิดภาคเรียนในเดือนพฤศจิกายน การเปิดส่วนต่อขยายของรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินอีก 4 สถานี (เตาปูน-สิรินธร) ในเดือนธันวาคมนี้ และการจัดงานรอบเส้นทาง เช่น งานกาชาด ในเดือนพฤศจิกายน โดยประเมินผู้โดยสารในปีนี้อยู่ที่ 3.4 แสนเที่ยว/วัน และเพิ่มขึ้นเป็น 4.3 แสนเที่ยว/วันในปี 2563 หลังจากเปิดครบทั้งสายสีน้ำเงิน โดยในเดือนตุลาคม 2562 มีจำนวนผู้โดยสารสูงแตะระดับ 4.3 แสนเที่ยว/วัน ในวันทำงาน และจะเติบโตต่อเนื่องในปี 2563 หลังจากเปิดเดินรถครบทั้งสายสีน้ำเงิน
อีกทั้งมีโอกาสได้ต่อสัมปทานทางด่วนเส้นที่ดำเนินการอยู่ในปัจจุบันที่จะสิ้นสุดสัญญาสัมปทานในเดือนกุมภาพันธ์ 2563 นอกจากนี้ มี upside จากโครงการอื่น ๆ ในอนาคต จากแผนที่จะเข้าร่วมประมูลในโครงการมอเตอร์เวย์ ,รถไฟฟ้าสายม่วงใต้ และสายสีส้ม
พักเที่ยงราคาหุ้น BEM อยู่ที่ 10.80 บาท เพิ่มขึ้น 0.10 บาท หรือ 0.93% ขณะที่ดัชนีหุ้นไทย ลดลง 0.48%
โบรกเกอร์ คำแนะนำ ราคาเป้าหมาย (บาท/หุ้น) ทิสโก้ ซื้อ 12.50 เคทีบี (ประเทศไทย) ซื้อ 12.10 เมย์แบงก์ กิมเอ็งฯ ซื้อ 12.00 โนมูระ พัฒนสิน Neutral 11.90 หยวนต้า (ประเทศไทย) ซื้อ 11.80 ทรีนีตี้ ซื้อ 11.40 เคจีไอ (ประเทศไทย) Outperform 11.10 ดีบีเอส วิคเคอร์สฯ ถือ 11.00
นายปริญญ์ กิจจาทรพิทักษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) ระบุว่า กำไรสุทธิของ BEM ในไตรมาส 3/62 อยู่ที่ 937 ล้านบาท ลดลง 69.9% จากงวดปีก่อน และลดลง 69.9% จากไตรมาสก่อน ขณะที่กำไรปกติอยู่ที่ 913 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.5% จากงวดปีก่อน และเพิ่มขึ้น 34.7% จากไตรมาสก่อน โดยในไตรมาส 3/62 ไม่มีการบันทึกกำไรพิเศษก้อนใหญ่เหมือนกับในไตรมาส 3/61 และ ไตรมาส 2/62 ทั้งนี้ กำไรสุทธิที่ลดลงเมื่อเทียบกับงวดปีก่อน เป็นเพราะในไตรมาส 3/61 บริษัทมีการบันทึกกำไรจากการขายเงินลงทุน และกำไรจากปรับวิธีจัดชั้นการลงทุนในบมจ.ซีเค พาวเวอร์ (CKP)
รายได้จากธุรกิจหลักในไตรมาส 3/62 เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับงวดปีก่อน เป็น 4.07 พันล้านบาท โดยรายได้จากธุรกิจทางด่วนเพิ่มขึ้น 47 ล้านบาท, รายได้จากธุรกิจระบบรางเพิ่มขึ้น 48 ล้านบาท และรายได้จากธุรกิจการพัฒนาเชิงพาณิชย์เพิ่มขึ้น 32 ล้านบาท ในขณะที่รายได้อื่นเพิ่มขึ้น 224 ล้านบาทเป็น 240 ล้านบาทจากการบันทึกรายได้เงินปันผลที่ได้รับจากบมจ.ทีทีดับบลิว (TTW) ในงบกำไรขาดทุน แทนที่จะบันทึกส่วนแบ่งกำไรจากการลงทุนในบริษัทในเครือหลังปรับวิธีจัดชั้นการลงทุนในไตรมาส 2/62
"เรามองบวกกับ BEM ในอีกสองสามปีข้างหน้า เพราะยังเห็น upside จาก การประมูลโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม , การประมูลโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ และ โอกาสที่จะได้ต่อสัมปทานทางด่วนเส้นที่ดำเนินการอยู่ในปัจจุบัน"
บล.ทิสโก้ ระบุในบทวิเคราะห์ ยังแนะนำ "ซื้อ" สำหรับ BEM จากคาดจำนวนผู้โดยสารจะปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องหลังจากสร้างสถิติใหม่ต่อเนื่องในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา จากการเข้าสู่ช่วงเปิดเทอมและเปิดส่วนต่อขยายใหม่ ขณะที่ความกังวลต่อประเด็นการต่อสัญญาสัมปทานทางด่วนที่จะครบสัญญาในเดือนกุมภาพันธ์ 2563 คาดจะได้ข้อสรุปภายในสิ้นปีนี้ รวมถึงยังมี upside จากโครงการอื่นๆ ในอนาคต จากแผนการที่จะเข้าร่วมประมูลในโครงการมอเตอร์เวย์ รถไฟฟ้าสายม่วงใต้ และสายสีส้ม
BEM รายงานจำนวนผู้โดยสารเดือนตุลาคม เพิ่มขึ้น 17% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน มาที่ 3.75 แสนเที่ยว/วัน จาก 3.21 แสนเที่ยว/วันในเดือนตุลาคม 2561 และ 3.5 แสนเที่ยว/วันในเดือนกันยายน 2562 ขณะที่ผู้โดยสารวันทำงานแตะระดับ 4.3 แสนเที่ยว/วัน เพิ่มขึ้น 15% จากงวดปีก่อน และเพิ่มขึ้น 8% จากเดือนก่อนหน้า เป็นไปตามการเปิดส่วนต่อขยายสายสีน้ำเงินจากสถานีวัดมังกร-สถานีหลักสอง จำนวนรถใช้ทางด่วนเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน หลักๆ ยังมาจากเส้นทางนอกเมืองและทางด่วนศรีรัชฯ โดยเห็นแนวโน้มที่ดีสำหรับจำนวนผู้โดยสารรถไฟฟ้า และค่าโดยสารเฉลี่ยเพิ่มจาก 25.4 บาท/เที่ยว มาที่ 26.6 บาท/เที่ยว จากจำนวนสถานีที่ผู้โดยสารเดินทางมากขึ้น
ทั้งนี้ คาดจำนวนผู้โดยสารจะเพิ่มขึ้นอีกในช่วงที่เหลือของปี จากการเปิดภาคเรียนในเดือนพฤศจิกายน การเปิดส่วนต่อขยายอีก 4 สถานี (เตาปูน-สิรินธร) ในเดือนธันวาคมนี้ และการจัดงานรอบเส้นทาง เช่น งานกาชาด ในเดือนพฤศจิกายนนี้ ซึ่งประเมินผู้โดยสารสำหรับ BEM ในปีนี้อยู่ที่ 3.4 แสนเที่ยว/วันและเพิ่มขึ้นเป็น 4.3 แสนเที่ยว/วันในปี 2563 หลังจากเปิดครบทั้งสาย
สำหรับกำไรปกติงวด 9 เดือนแรกปีนี้ ของ BEM คิดเป็น 78% ของประมาณกำไรปกติปี 2562 ที่ 3.14 พันล้านบาท ทำให้ยังคงประมาณการ โดยคาดจะเห็นผลประกอบการที่อ่อนตัวเมื่อเทียบต่อไตรมาส ในช่วงไตรมาส 4/62 จากไม่มีรับรู้รายได้ปันผล ค่าใช้จ่ายในการเปิดส่วนต่อขยายที่เพิ่มขึ้น และคาดว่า BEM จะเริ่มบันทึกดอกเบี้ยเงินกู้จากโครงการนี้ในไตรมาส 4/62 แต่สำหรับปี 2563 คาดว่าจะเห็นการเติบโตตามการเปิดส่วนต่อขยายส่งผลให้จำนวนผู้โดยสารเพิ่มขึ้น
บล.เคทีบี (ประเทศไทย) คงคำแนะนำ "ซื้อ" และราคาเป้าหมายที่ 12.10 บาท สำหรับ BEM เพราะการเติบโตในอนาคตจากรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน รวมถึงมองว่า BEM มีโอกาสขยายสัมปทานทางด่วนจากการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทกับการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.)ได้เพราะศาลมีคำสั่งให้กทพ.ชดใช้ BEM แล้ว ขณะที่กำไรปกติงวด 9 เดือนแรกของปี 2562 คิดเป็น 74% ของทั้งปี ทำให้คาดว่ากำไรปกติทั้งปีจะยังใกล้เคียงกับที่คาดไว้ที่ 3.4 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 6% จากปีก่อน และไตรมาส 4/62 ยังมีขยายตัวของผู้โดยสารรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน
นอกจากนี้ราคาหุ้น BEM เคลื่อนไหวในช่วงแคบในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา สะท้อนความไม่แน่นอนจากกรณีข้อพิพาทการต่ออายุสัมปทานทางด่วน อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่เหลือของปี ผู้โดยสารสายสีน้ำเงินคาดว่าจะเพิ่มขึ้นจากการเปิดส่วนต่อขยายจากเตาปูนถึงสิรินธรในเดือนธันวาคมนี้