นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะดีดกลับขึ้นไปได้ จากความคาดหวังการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน ภายหลังจากที่มีรายงานข่าวที่ว่า นายแลร์รี่ คุดโลว์ หัวหน้าที่ปรึกษาฝ่ายเศรษฐกิจประจำทำเนียบขาว ได้เปิดเผยว่า สหรัฐฯใกล้บรรลุข้อตกลงการค้ากับจีน ส่งผลให้ดาวโจนส์วิ่งขึ้นทำจุดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ อีกทั้งยังได้แรงเสริมจากยอดค้าปลีกของสหรัฐฯออกมาดีด้วย และราคาทองคำก็ลดลง
อย่างไรก็ดี ตลาดหุ้นไทยก็มีแรงถ่วงจากผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนงวดไตรมาส 3/62 ที่โดยรวมออกมาไม่ดีนัก แต่ก็ยังมีความคาดหวังเม็ดเงินจะไหลเข้ามาบ้างจากงาน SET in the City 2019 พร้อมให้ติดตามตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) งวดไตรมาส 3/62 ของไทยในวันนี้ ตลาดดคาดว่าจะเติบโต 2.8% ส่วนนอกประเทศก็ให้ติดตามสถานการณ์ประท้วงในฮ่องกงที่มีความรุนแรงขึ้น ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ
พร้อมให้แนวรับ 1,600-1,595 จุด ส่วนแนวต้าน 1,620-1,625 จุด
ประเด็นพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (15 พ.ย.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 28,004.89 จุด เพิ่มขึ้น 222.93 จุด (+0.80%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 33,120.46 จุด เพิ่มขึ้น 23.83 จุด (+0.77%) และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 8,540.83 จุด เพิ่มขึ้น 61.81 จุด (+0.73%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 0.93 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 1.79 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 115.73 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 18.20 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ลดลง 0.29 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ลดลง 6.97 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 1.66 จุด
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (15 พ.ย.62) 1,602.23 จุด ลดลง 7.24 จุด (-0.45%)
- นักลงทุนต่างขายสุทธิ 710.11 ล้านบาท เมื่อวันที่ 15 พ.ย.62
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ธ.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (15 พ.ย.62) ปิดที่ 57.72 ดอลลาร์/บาร์เรลเพิ่มขึ้น 95 เซนต์ หรือ 1.7%
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (15 พ.ย.) อยู่ที่ 0.71 ดอลลาร์/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 30.25 อ่อนค่าหลังดอลล์แข็งรับยอดค้าปลีกสหรัฐฯดีกว่าคาด-หวังเจรจาการค้าคืบหน้า จับตา GDP Q3/62 ไทย
- บริษัทจดทะเบียนอ่วมพิษบาทแข็ง กดดันกำไรไตรมาส 3 ดิ่งหนัก โดยเฉพาะกลุ่มชิ้นส่วนฯอาหาร-พลังงาน-ปิโตรฯ "นักวิเคราะห์" ชี้ค่าเงินที่แข็งทุก 1 บาท ฉุดกำไร กลุ่มส่งออกวูบ 1,500 ล้านบาท ขณะ "569 บจ." รายงานงบไตรมาส 3 ร่วงกว่า 18% ด้าน "เดลต้า" เร่งปิดความเสี่ยง ทำเฮดจิ้งล่วงหน้า
- คมนาคมส่อล้มดีลต่อสัมปทานทางด่วน 30 ปี หลังมั่นใจจะชนะคดี ลุยข้อพิพาทค่าโง่ทางด่วนแสนล้านบาท ด้านสหภาพ ขสมก.จ่อบุกคมนาคม 21 พ.ย.นี้ ค้านรื้อแผนฟื้นฟู
- อุปนายกสมาคมค้าทองคำ เปิดเผยว่า ช่วงปลายปีนี้ ภาพรวมการซื้อขายทองคำในประเทศไม่คึกคักเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา เห็นได้จากปริมาณการซื้อทองคำรูปพรรณ ลดลงมาก เพราะบรรดาโรงงานต่างปิดกิจการ ลดค่าจ้าง ลดโอที งดทำงานพิเศษวันเสาร์-อาทิตย์ เพราะมีปัญหาเศรษฐกิจที่ยังมีแนวโน้มย่ำแย่ ส่งผลให้กำลังซื้อของลูกค้าที่เป็นลูกจ้างโรงงาน ที่เลือกซื้อทองรูปพรรณในช่วงเทศกาลพิเศษต่างๆ หายไป รวมทั้งลูกค้ากลุ่มเกษตรกรยังประสบปัญหาภัยแล้งและบางส่วนเกิดน้ำท่วมก็ไม่สนใจเลือกซื้อทองคำด้วยเนื่องจากต้องนำเงินไปใช้ในการซ่อมแซมที่อยู่อาศัยและฟื้นฟูกิจการมากกว่า
- กรมการค้าภายในเตรียมดึงค่าบริการทางการแพทย์ 200 รายการขึ้นเว็บไซต์ติดคิวอาร์โค้ดเปรียบเทียบโรงพยาบาลเอกชน 351 แห่ง มีทั้งค่าหมอ ค่าเอกซเรย์ ค่าห้อง ค่าอาหาร คาดประกาศใช้ต้นปี 63 หลังได้นำราคายาของแต่ละโรงพยาบาลขึ้นไว้บนเว็บไซต์ของกรมแล้ว ได้รับความสนใจจากประชาชนผู้ป่วยและญาติผู้ป่วยเข้ามาเช็กและเทียบราคาจำนวนมาก
*หุ้นเด่นวันนี้
- BDMS (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 28 บาท เป็น 1 ใน 2 โรงพยาบาลที่กำไร Q3/62 ดีกว่าคาด +55% Q-Q, +0.4% Y-Y กำไรที่ไม่หดตัวจากปีก่อนถือเป็น positive surprise แสดงว่าคุมต้นทุนได้ดีมากทั้งที่เปิดโรงแรม Movenpick BDMS Wellness Resort และ Bangkok International ตั้งแต่กลางปีก่อน ด้านกลุ่ม Healthcare เป็นหนึ่งในไม่กี่กลุ่มที่กำไรแกร่งสุดใน Q3/62 โตทั้ง Q-Q, Y-Y ดัชนีกลุ่ม underperform ตลาดทั้งที่กำไรมีทิศทางโตต่อเนื่อง ทนทานภาวะเศรษฐกิจได้ดี โดยคาดกำไรปกติ BDMS +13% ปีหน้า โตดีไม่แพ้โรงพยาบาลขนาดกลาง-เล็ก
- CPF (กรุงศรี) "ซื้อ"เป้า 33.5 บาท ทยอยสะสมมองราคาหุ้นลดลงสะท้อนข่าวแพร่ระบาดของโรคอหิวาต์หมูแอฟริกาไปแล้ว ขณะที่ปัจจุบันราคาหมูในประเทศเริ่มฟื้นตัวจากระดับ 55 บาทต่อ ก.ก. เป็น 60 บาทต่อก.ก. เช่นเดียวกับราคาหมูเวียดนามที่ฟื้นตัวขึ้นกว่าเท่าตัวจากระดับ 33,000 ดองต่อ ก.ก. ขึ้นเป็น 60,000 ดองต่อก.ก. ในปัจจุบันคาดว่าจะช่วยหนุนผลประกอบการ Q3/62 และ Q4/62 ฟื้นตัว