นายอิทธิพันธ์ พีระเดชาพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เถ้าแก่น้อย ฟู๊ดแอรด์มาร์เก็ตติ้ง (TKN) เปิดเผยว่า บริษัทมองว่ารายได้ในปีนี้ยังมีโอกาสเติบโตตามเป้า 5-7% แม้ว่ารายได้ในช่วง 3 ไตรมาสที่ผ่านมาจะลดลงถึง 4% แต่เชื่อว่าทิศทางรายได้ในช่วงไตรมาส 4/62 จะทำสถิติสูงสุดของปีนี้ เนื่องจากได้รับคำสั่งซื้อจากตลาดในประเทศจีนที่เป็นตลาดหลักเข้ามาสนับสนุนหลังจากได้เป็นพันธมิตรกับ บริษัท โอริออน คอร์ป (ORION Crop)
ทั้งนี้ การเป็นพันธมิตรร่วมกับ ORION จะเสริมความแข็งแกร่งให้กับบริษัท เนื่องจาก ORION มีความแข็งแกร่งทั้งในตลาดจีน รัสเซีย เวียดนาม และเกาหลี ซึ่งจะทำให้บริษัทสามารถขยายตลาดได้เพิ่มมากขึ้นกว่าปัจจุบัน โดยในเดือน ธ.ค.นี้ ORION จะหารือกับพันธมิตรในรัสเซียเพื่อทำการตลาดสินค้าของ TKN ต่อไป และยังคาดว่าในช่วงครึ่งแรกของปี 63 จะมีออเดอร์แรกจากตลาดเกาหลีประมาณ 6-7 ตู้
ขณะที่บริษัทคาดหวังว่าจากการร่วมกับ ORION จะทำให้สัดส่วนยอดขายในตลาดจีนจะเพิ่มเป็น 40% ในปีหน้าของยอดขายรวม จากปัจจุบันอยู่ที่ 34-35%
"ผลประกอบการในไตรมาส 3/62 เป็นจุดต่ำสุดของปีนี้แล้ว เนื่องจากเป็นช่วงเปลี่ยนผ่านทำให้ตลาดจีนต่ำกว่าเป้าหมายที่วางไว้ ส่งผลให้ในไตรมาส 3 ที่ผ่านมายอดขายในต่างประเทศลดลงมาอยู่ที่ 719 ล้านบาท ลดลง 21% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่ยอดขายในประเทศทรงตัวที่ 549 ล้านบาท แต่ในช่วงไตรมาส 4/62 นี้จะฟื้นตัวอย่างเห็นได้ชัด"นายอิทธิพันธ์ กล่าว
นายอิทธิพันธ์ กล่าวอีกว่า บริษัทตั้งเป้าที่จะมีกำไรสุทธิกลับไปอยู่ในระดับใกล้เคียงกับปี 59 ที่ 781.85 ล้านบาท ในช่วงปี 63 โดยบริษัทจะเน้นการบริหารจัดการต้นทุน และปรับแผนธุรกิจใหม่เป็น Super Snack โดยจะเน้น 3 ด้าน คือ Plant Snack , Protein Snack , และ Premium Snack ที่มีมาร์จิ้นสูงเพิ่มขึ้น
สำหรับกรณีที่กรมสรรพสามิตอยู่ระหว่างการศึกษาเพื่อเก็บภาษีความเค็มนั้น จากข้อมูลพบว่าการเรียกเก็บภาษีความเค็มนั้นจะเก็บจากวัตถุดิบหรือส่วนผสม แต่สำหรับสาหร่ายนั้น ส่วนใหญ่ความเค็มเกิดจากตัวของสาหร่ายเอง ไม่ได้เกิดจากตัววัตถุดิบอื่นที่ใส่เข้าไปเพิ่มเติม แต่อย่างไรก็ตาม ยังต้องพิจารณาในรายละเอียดอีกครั้งด้วยหากเรียกเก็บจริง