นายจิรณุ กุลชนะรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. สยามราชธานี (SO) เปิดเผยว่า สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้นับหนึ่งแบบคำขออนุญาตเสนอขายหลักทรัพย์และแบบแสดงรายการข้อมูล (ไฟลิ่ง) เพื่อเสนอขายให้กับประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) ของบริษัทแล้ว เมื่อวันที่ 15 พ.ย.62
นายคมกฤต มีคำสัตย์ กรรมการผู้จัดการสายงานตลาดทุน บล.อาร์เอชบี (ประเทศไทย) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้น SO กล่าวว่า SO เตรียมเสนอขายหุ้น IPO จำนวนไม่เกิน 85 ล้านหุ้น คิดเป็น 27.42% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดภายหลังการเสนอขายหุ้น IPO แบ่งเป็นขายให้แก่ประชาชนทั่วไป จำนวน 76.5 ล้านหุ้น และเสนอขายให้แก่กรรมการ ผู้บริหาร และพนักงานของบริษัทจำนวน ไม่เกิน 8.5 ล้านหุ้น
ทั้งนี้ บริษัทจะนำเงินที่ได้จากการเสนอขายหุ้นต่อประชาชนไปชำระคืนเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงินและใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการขยายกิจการ เพื่อรองรับการเติบโตในอนาคต
SO ประกอบธุรกิจการจ้างเหมาบริการครบวงจร แบ่งโครงสร้างธุรกิจเป็น 2 กลุ่มหลัก ได้แก่ 1.ธุรกิจให้บริการจัดหาบุคลากร (Outsourcing Services) และ 2. ธุรกิจให้เช่าและบริการ สำหรับธุรกิจให้บริการจัดหาบุคลากร แบ่งการให้บริการออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่ 1) ธุรกิจบริการบริหารจัดการ ซึ่งครอบคลุม การบริหารจัดการพนักงานขับรถยนต์และพนักงานสำนักงาน การบริหารจัดการพนักงานช่างเทคนิค และการบริหารจัดการงานบันทึกข้อมูล 2) ธุรกิจบริการดูแลภูมิทัศน์ ซึ่งครอบคลุม บริการดูแลสวนขนาดใหญ่ บริการออกแบบและจัดสวน และบริการตัดต้นไม้ใหญ่ (Tree Care)
ส่วนธุรกิจให้เช่าและบริการ แบ่งได้เป็น 2 รูปแบบ ได้แก่ ธุรกิจบริการรถยนต์ให้เช่า ซึ่งบริษัท มีบริการรถยนต์ให้เช่าหลากหลายรูปแบบทั้ง รถยนต์ 4 ล้อ รถเก๋ง รถกระบะ รถตู้ รถ 6 ล้อ รวมทั้งรถยนต์ดัดแปลง และธุรกิจให้เช่าพื้นที่สำนักงาน
ปัจจุบัน SO มีทุนจดทะเบียน 310 ล้านบาท แบ่งออกเป็น 310 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 1.00 บาท มีทุน ที่ออกและชำระแล้ว 225 ล้านบาท หรือ 225 ล้านหุ้น โดยมีครอบครัววิมลเฉลาเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่
ตลอดระยะเวลา 40 ปีที่บริษัทดำเนินธุรกิจสามารถสร้างกำไรได้ทุกปีและมีผลดำเนินงานเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดย 3 ปีย้อนหลังนั้น ในปี 59 มีรายได้รวม 1,670.27 ล้านบาท, ปี 60 มีรายได้รวม 1,732.32 ล้านบาท และ ปี 61 มีรายได้รวม 1,850.88 ล้านบาท ส่วนกำไรสุทธิในปี 59-61 เท่ากับ 138.35 ล้านบาท, 116.11 ล้านบาท และ 101.01 ล้านบาท ตามลำดับ
บริษัทยังมองหาโอกาสขยายบริการใหม่ๆ ในทุกภาวะเศรษฐกิจ ด้วยการนำความต้องการของลูกค้ามาต่อยอดการให้บริการและขยายธุรกิจของบริษัท เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างหลากหลาย ภายใต้วิสัยทัศน์ "สยามราชธานีคือผู้ให้โซลูชั่นที่พลิกการดำเนินชีวิตและการทำธุรกิจให้เป็นเรื่องง่าย: Siamrajathanee All Solutions One Outsource, Makes Life Simplified "
บริษัทได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าบริษัทเอกชนรายใหญ่ใช้บริการ เช่น บมจ.ปตท. (PTT), บมจ.การบินไทย (THAi), ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB), ออมสิน, บมจ. ท่าอากาศไทย (AOT), บมจ. ปูนซิเมนต์ไทย (SCC), บมจ.ไทยออยล์ (TOP) บริษัทข้ามชาติอย่าง เชฟรอน, บริดสโตน, ชาแนล ไปจนถึงค่ายรถยนต์ยักษ์ใหญ่อย่าง โตโยต้า, ฮอนด้า, มิตซูบิชิ และนิสสัน ขณะที่หน่วยงานราชการและรัฐวิสาหกิจ เช่น การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การไฟฟ้านครหลวง กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงวัฒนธรรม สำนักงานประกันสังคม การประปาส่วนภูมิภาค เป็นต้น
บริษัทมองเห็นโอกาสทางธุรกิจที่จะขยายการใช้บริการต่างๆ ไปสู่บุคคลธรรมดามากยิ่งขึ้น อาทิ การบริการรถตู้บริการสำหรับผู้ใช้รถเข็นวีลแชร์ ภายใต้ชื่อ Mr. Journey การบริหารจัดการพนักงานขับรถยนต์ระยะสั้นภายใต้ชื่อ Drive4U ให้กับบุคคลทั่วไปและผู้บริหาร และการบริหารจัดการรับ-ส่งรถลูกค้า หรือ Valet Parking เพื่อสนับสนุนการเติบโตของธุรกิจอย่างต่อเนื่อง