ฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก (GBS) ประเมินทิศทางตลาดหุ้นไทยมีการฟื้นตัวที่ดีขึ้น หลังจากได้รับปัจจัยบวกเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนในการทำข้อตกลงเฟสแรกส่งสัญญาณที่ดีขึ้น โดยมีรายงานข่าวว่าการพูดคุยหารือระหว่างสองฝ่ายเป็นไปอย่างสร้างสรรค์ ขณะที่การเข้าซื้อของกองทุน LTF และ RMF ในช่วงปลายปีจะช่วยพยุงดัชนีตลาดหุ้นไทย (SET Index) ให้สามารถยืนเหนือระดับ 1,600 จุดได้ ประกอบกับกระทรวงการคลังเร่งเบิกจ่ายเงินงบลงทุนของรัฐวิสาหกิจในช่วง 2 เดือนสุดท้ายช่วยประคองการเติบโตของเศรษฐกิจในช่วงปลายปี
ทั้งนี้ GBS คาดการณ์การเคลื่อนไหวของ SET Index จะอยู่ในกรอบ1,585-1,615 จุด
ส่วนปัจจัยที่ยังคงกดดันความเชื่อมั่นการลงทุนในขณะนี้ คือ การประกาศตัวเลขอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (GDP) ของไทยไตรมาส 3/62 เติบโต 2.4% ต่ำกว่าที่ประมาณการไว้ และได้ปรับลดคาดการณ์ GDP ทั้งปี 62 เหลือ 2.6% จากเดิมที่คาดว่าจะขยายตัว 2.7-3.2% เนื่องจากคาดว่าการส่งออกจะหดตัว 2% มากกว่าเดิมที่คาดว่าจะลดลง 1.2% แสดงภาพรวมเศรษฐกิจไทยชะลอตัว และค่าเงินบาทแข็งค่าต่อเนื่องส่งผลกระทบต่อการส่งออก
ด้านนางสาว วิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย GBS กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจัยที่ยังคงต้องจับตาเหล่านี้เพิ่มเติม อาทิ วันที่ 19 พ.ย.สหรัฐ เปิดเผยตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตก่อสร้างเดือน ต.ค., วันที่ 20 พ.ย. สหรัฐ เปิดเผยสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์ และคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) (เช้าวันที่ 21 พ.ย.) เปิดเผยรายงานการประชุมวันที่ 29-30 ต.ค.ที่ผ่านมา, วันที่ 21 พ.ย. สหรัฐ เปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ดัชนีการผลิตเดือน พ.ย. ยอดขายบ้านมือสองเดือน ต.ค. และดัชนีชี้นำเศรษฐกิจเดือน ต.ค.จาก Conference Board และวันที่ 22 พ.ย. สหภาพยุโรป (EU) เปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นต้นเดือน พ.ย.
ดังนั้น แนะนำกลยุทธ์การลงทุนในหุ้นเข้าคำนวณดัชนี MSCI Thailand เช่น BGRIM, GPSC, OSP และ SAWAD หุ้นเข้า MSCI Small Cap เช่น CENTEL, DOHOME, JMT, SPRC, STPI, TPIPP และTQM โดยจะมีผลในวันที่ 26 พ.ย.62
ด้านราคาทองคำ นายณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย GBS กล่าวว่า ราคาทองคำปรับตัวหลุดแนวรับที่ 1,480 ดอลลาร์ อีกทั้งกองทุน SPDR มีสถานะขายติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2 จากที่ก่อนหน้านี้มีสถานะซื้ออย่างต่อเนื่อง โดยตั้งแต่ต้นเดือน พ.ย.มีสถานะขาย 17.9 ตัน (ต.ค. ขายออก -5.28 ตัน) คอยกดดันราคาทองคำ
อย่างไรก็ตาม คาดว่าราคาทองคำจะสร้างฐานได้เหนือ 1,455 เหรียญสหรัฐ/ออนซ์ได้เนื่องจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐอายุ 10 ปีเริ่มปรับตัวลงจากระดับสูงสุดที่ 1.94% สู่ 1.84% แนะนำเล่นรอบใช้กลยุทธ์ลงซื้อ-ขึ้นขาย พร้อมติดตามอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐอายุ 10 ปีเพื่อเป็นตัวบ่งชี้ความต้องการถือสินทรัพย์ปลอดภัย