นายไกรลักขณ์ อัศวฉัตรโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน บมจ.ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น (WHA) เปิดเผยว่า ทิศทางผลประกอบการในช่วงไตรมาส 4/62 จะเป็นไตรมาสที่มีผลประกอบการที่ดีที่สุดของปีนี้ เนื่องจากจะมีการเซ็นสัญญากับลูกค้าโลจิสติกส์รายใหญ่หลายราย
ล่าสุด บริษัท อาลีบาบาแสดงความจำนงจะเข้าซื้อที่ดินและคลังสินค้า พื้นที่ 1.3 แสนตารางเมตร บริเวณถนนบางนา-ตราด คาดว่ากระบวนการซื้อขายจะแล้วเสร็จภายใน 60 วัน และจะรับรู้รายได้ทันทีมูลลค่าไม่ต่ำกว่า 3 พันล้านบาท นอกจากนี้ จะมีการเซ็นสัญญาขายพื้นที่ให้กับลูกค้าโลจิสติกส์รายใหญ่ราว 2-2.65 แสนตารางเมตร
ขณะที่บริษัทจะเน้นการทำการตลาดแบบพรีเมี่ยมมากขึ้นเพื่อเพิ่มอัตรากำไร (มาร์จิ้น) ประกอบกับยังมีจะมีการรับรู้รายได้จากการขายสินทรัพย์เข้ากองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าดับบลิวเอชเอ พรีเมี่ยม โกรท (WHART) มูลค่าไม่เกิน 4.88 พันล้านบาท
"ปีนี้เรายังคงมั่นใจว่าการขายที่ดินทั้งในประเทศและต่างประเทศรวมจะเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ 1.6 พันไร่ โดยปัจจุบันมีการขายที่ดินและอยู่ระหว่างรอเซ็นสัญญากว่า 1.2 พันไร่ โดยส่วนใหญ่เป็นลูกค้าจีน ญี่ปุ่น และไต้หวัน และในทุกๆธุรกิจมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องจึงมั่นใจว่ารายได้ปีนี้จะเติบโตเข้าเป้าหมายที่วางไว้ 70%"นายไกรลักขณ์ กล่าว
ขณะที่รายได้จากธุรกิจสาธารณูปโภคที่เพิ่มขึ้นจากการปริมาณการขายและให้บริการน้ำตามความต้องการใช้น้ำของลูกค้านิคมอุตสาหกรรม และโรงไฟฟ้าใหม่ๆ ที่ดำเนินการอยู่ในนิคมอุตสาหกรรม ส่วนผลประกอบการจากโรงไฟฟ้าของบริษัททุกโครงการยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องเช่นกัน
อีกทั้งยังมีการขยายธุรกิจต่างประเทศ ล่าสุด เข้าซื้อน้ำประปาในเมืองฮานอยของเวียดนาม ปัจจุบันมีกำลังการผลิต 54.75 ล้านลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) ต่อปี พร้อมกันนี้ยังมีแผนจะขยายกำลังผลิตอีก 50 ล้าน ลบ.ม./ปี และคาดว่าปีหน้าจะขยายกำลังการผลิต เพิ่มอีก 2 เฟส กำลังการผลิตเฟสละ 110 ล้านลบ.ม./ปี ทำให้คาดว่าปี 64 จะมีกำลังการผลิตรวมกว่า 330 ล้านลบ.ม./ปี การขยายกำลังการผลิตนั้นเติบโตตามความต้องการน้ำในเวียดนามที่ยังมีดีมานด์ในระดับสูง
"คาดว่าการขยายธุรกิจในทุกกลุ่มจะหนุนให้ผลประกอบการปี 63 เติบโตจากปี 62 แต่สัดส่วนรายได้จะมีการเปลี่ยนแปลงไปตามธุรกิจที่ดำเนินการเพิ่มขึ้นในแต่ละปี"นายไกรลักขณ์ กล่าว