นายสมเกียรติ ศิลวัฒนาวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.สโตนเฮ้นจ์ อินเตอร์ (STI) กล่าวว่า ณ สิ้นเดือน ต.ค.62 บริษัทมีงานในมือที่รอรับรู้รายได้ (Backlog) 1,700 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้ไปอีก 3 ปีข้างหน้า และยังอยู่ระหว่างประมูลงานใหม่เพิ่มเติมอีกหลายโครงการเพื่อเสริม Backlog ในมือสนับสนุนภาพรวมปี 62 ทำสถิติสูงสุดใหม่ทั้งรายได้และกำไร เมื่อเทียบกับปี 61 มีรายได้จากการให้บริการ 631 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 73 ล้านบาท
สำหรับผลประกอบการที่ประกาศออกมาเป็นไปตามคาดการณ์ และเป้าหมายที่วางไว้ จากการลงทุนของภาครัฐบาลและเอกชน กลุ่มลูกค้ามีการพัฒนาและปรับปรุงโครงการอสังหาริมทรัพย์ในทำเลที่มีศักยภาพ ทั้งประเภทแนวราบและแนวสูง โดยงานใหม่ที่รับเข้ามาเพิ่มเติมในช่วงไตรมาส 3/62 อย่างโครงการพัฒนาหมอน 33 หรือบล็อก 33 เขตพาณิชย์สวนหลวง-สามย่าน ของสำนักงานจัดการทรัพย์สิน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (PMCU) ที่มีมูลค่าสัญญารวม 94 ล้านบาท
ทั้งนี้ ในไตรมาส 3/62 มีรายได้รวมจากการให้บริการจำนวน 186.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนทีมีรายได้รวม 166.7 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 19.5 ล้านบาท คิดเป็นอัตราเพิ่มขึ้น 11.7% ขณะที่กำไรสุทธิอยู่ที่ 23.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.3 ล้านบาท คิดเป็นอัตราเพิ่มขึ้น 22.9%
รายได้และกำไรที่เพิ่มขึ้นมาจากธุรกิจบริหารและควบคุมงานก่อสร้าง รายได้เพิ่มขึ้น 6.4 ล้านบาท อาทิ โครงการปรับปรุงศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โครงการ Terminal21 พระราม 3 โครงการ UOB สำนักงานใหญ่ (สุขุมวิท) โครงการ Tipco Building Extension และโครงการที่มีการดำเนินงานต่อเนื่อง เช่น โครงการ One Bangkok และ โครงการ The PARQ รวมทั้งโครงการประเภทอาคารเอนกประสงค์
ส่วนรายได้จากธุรกิจออกแบบสถาปัตยกรรมและวิศวกรรม เพิ่มขึ้น 13.1 ล้านบาท เนื่องจากปริมาณงานที่เพิ่มขึ้น เช่น งานพัฒนาโครงการพื้นที่ชุมชนตามการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก งานโครงการประเภทโรงงานและคลังสินค้าหลายแห่ง รวมถึงงานโครงการประเภทอาคารเอนกประสงค์
ขณะที่ผลประกอบการงวด 9 เดือนปี 62 มีรายได้รวม 524.3 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 79.7 ล้านบาท คิดเป็นอัตราเพิ่มขึ้น 17.9% ขณะที่กำไรสุทธิอยู่ที่ 63.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 33.3 ล้านบาท คิดเป็นอัตราเพิ่มขึ้น 109.2% ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 33.4% อัตรากำไรสุทธิ 12.2%
"ผลประกอบการที่ประกาศออกมา ยิ่งสะท้อนความแข็งแกร่งของ กลุ่ม STI เราไม่กังวลสถานการณ์แนวโน้มตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปี 62 ที่ชะลอตัวจากปัจจัยทางด้านเศรษฐกิจ และมาตรการของรัฐบาล ด้วยความเชี่ยวชาญในธุรกิจที่ปรึกษาบริหารและควบคุมงานก่อสร้างทุกประเภท มีโครงการในมือหลากหลาย สะท้อนการบริหาร Product Mix อย่างมีประสิทธิภาพ ได้แก่ โครงการประเภทคอนโดมิเนียม, มิกซ์ยูส, อาคารอเนกประสงค์, อาคารสำนักงาน และขยายโอกาสไปยังงานโครงการอื่นๆ อาทิ โรงงานอุตสาหกรรม โรงพยาบาล เป็นต้น สนับสนุนให้ STI เติบโตต่อเนื่องในทุกไตรมาส และมีงานในมือที่รอรับรู้รายได้สวยๆ ไปอีก 2-3 ปีจากนี้" นายสมเกียรติ กล่าว