นายสมพงษ์ ชื่นกิติญานนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.บิสซิเนสอะไลเม้นท์ (BIZ) เปิดเผยว่า บริษัทคาดว่ารายได้ปี 63 จะทำสถิติสูงสุดใหม่ หรือมีรายได้ไม่ต่ำกว่า 1,400 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทมีมูลค่างานในมือรอส่งมอบ (Backlog) แล้วราว 1,400 ล้านบาท ซึงจะรับรู้รายได้ในปีนี้ราว 200 ล้านบาท ส่วนที่เหลือทั้งหมดจะรับรู้รายได้ในปีหน้า ส่วนใหญ่เป็นงานโครงการศูนย์รักษาผู้ป่วยมะเร็งด้วยอนุภาคโปรตอน ของโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์
นอกจากนี้บริษัทได้เข้าร่วมประมูลงานใหม่ต่อเนื่อง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นงานของโรงพยาบาลรัฐ 7-8 โครงการ มูลค่างานรวมประมาณ 1,000 ล้านบาท โดยจะทยอยรู้ผลการประมูลงานในช่วงต้นปี 63
บริษัทยังได้เข้าไปดำเนินการในธุรกิจโรงพยาบาล คือ โรงพยาบาลแคนเซอร์ อลิอันซ์ ศรีราชา ในจังหวัดชลบุรี เป็นอาคาร 4 ชั้น บนเนื้อที่ 5 ไร่ มูลค่าโครงการ 500 ล้านบาท ซึ่งบริษัทถือหุ้นในสัดส่วน 65% ที่เหลือเป็นกลุ่มแพทย์ 35% สามารถเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.62 เร็วกว่าเป้าหมายเดิม 3 เดือน ปัจจุบันมีบุคลากรประมาณ 60 คน รองรับผู้ป่วยแบบพักค้างคืน จำนวน 30 เตียง ราคาห้องพักผู้ป่วยเฉลี่ย 2,000-4,000 บาท/คืน
โรงพยาบาลดังกล่าวมีความสามารถให้บริการฉายรังสีได้ 50 คนต่อวัน และฉายคีโมได้ 40 รายต่อวัน การรักษาแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก ได้แก่ การรักษาด้วยการฉายรังสี (Radiotherapy) และการรักษาด้วยเคมีบำบัด (Chemotherapy) เน้นการควบคุมคุณภาพการรักษาให้ได้มาตรฐาน โดยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านมะเร็งโดยเฉพาะ ที่มีประสิทธิภาพและความปลอดภัยตามมาตรฐานสากล
ปัจจุบันมีผู้ป่วยเริ่มเข้ามาใช้บริการแล้ว และบริษัทพยายามทำการประชาสัมพันธ์ให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น รวมไปถึงการขยายเครือข่ายการเปิดรับผู้ป่วยร่วมกับโรงพยาบาลในบริเวณใกล้เคียงอีก 10 แห่ง รวมถึงศูนย์มะเร็งชลบุรี ได้แก่ โรงพญาบาลพญาไท ศรีราชา ,โรงพยาบาลสมเด็จฯสิริกิติ์ ,โรงพยาบาลระยอง ,โรงพยาบาลแหลมฉบัง ,โรงพยาบาลสมเด็จฯ ศรีราชา ,โรงพยาบาลวิภาราม แหลมฉบัง ,โรงพยาบาลสมิติเวช ศรีราชา ,โรงพยาบาลบางละมุง ,โรงพยาบาลมะเร็งชลบุรี และโรงพยาบาลเอกชล
โรงพยาบาลดังกล่าวเริ่มสร้างรายได้ให้แก่บริษัทแล้ว โดยคาดว่าปี 62 จะมีรายได้เข้ามาราว 40-50 ล้านบาท และใช้ระยะเวลา 5-7 ปีจะถึงจุดคุ้มทุน ประเมินว่าในระยะ 4-5 ปีจะมีผู้ป่วยเข้ามาใช้บริการ 90-100% ของความสามารถในการรองรับผู้ป่วย
นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนจะขยายธุรกิจโรงพยาบาลรักษาโรคมะเร็งไปยังภูมิภาคอื่น แต่คงต้องรอติดตามผลตอบรับของโรงพยาบาลแห่งแรกนี้ก่อน โดยบริษัทคาดว่าสัดส่วนรายได้จากธุรกิจโรงพยาบาลจะเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ในระยะยาวสัดส่วนรายได้จะเพิ่มขึ้นเป็น 50% อีก 50% มาจากการจำหน่ายสินค้า
"ที่ผ่านมาเรายังเติบโตได้ค่อนข้างดี และยังมีงานใหม่เข้ามาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในปีนี้เหลือระยะเวลาอีกไม่มาก ซึ่งที่ผ่านมาก็ถือว่าทำได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ เราจึงเชื่อมั่นว่ารายได้จะเติบโตได้ตามเป้าหมายที่วางไว้"นายสมพงษ์ กล่าว