FPT คาดกำไรงวดปี 62/63 โตก้าวกระโดดหลังควบรวม GOLD, วางง 3 พันลบ.ขยาย Buit-to-Suit เพิ่ม 1.5 แสนตร.ม.

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday November 21, 2019 15:16 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายโสภณ ราชรักษา ผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) (FPT) เปิดเผยว่า แนวโน้มกำไรสุทธิงวดปี 62/63 (ต.ค. 62-ก.ย. 63) คาดว่าจะเติบโตอย่างก้าวกระโดด จากงวดปีก่อนที่ทำได้ 3.48 พันล้านบาท โดยได้รับปัจจัยหนุนจากการรวมงบการเงินของ บมจ.แผ่นดินทอง พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ (GOLD) เข้ามาเต็มปี

พร้อมวางงบลงทุนราว 3 พันล้านบาท เพื่อใช้พัฒนาพื้นที่คลังสินค้าให้เช่าแบบ Built-to-Suit เพิ่มอีก 150,000 ตารางเมตร (ตร.ม.) ซึ่งจะทำให้พื้นที่เช่าของบริษัทในช่วงสิ้นงวดปีเพิ่มเป็น 300,000 ตร.ม.

นอกจากนี้ บริษัทยังคงมองหาโอกาสขายสินทรัพย์เข้ากองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์เพื่ออุตสาหกรรม เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (FTREIT) อย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างการเติบโตให้แก่บริษัทและกอง REIT ให้มากขึ้น พร้อมทั้งจะมีความร่วมมือกับพันธมิตรรายอื่นๆ เพื่อพัฒนาโครงการใหม่ๆ ที่มีความทันสมัยตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า

นายพีระพัฒน์ ศรีสุคนธ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ อินดัสเทรียล รีท แมนเนจเม้นท์ (ประเทศไทย) จำกัด (FIRM) ในฐานะผู้จัดการกอง FTREIT เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้าเพิ่มมูลค่าสินทรัพย์ของ FTREIT ในงวดปี 62/63 เป็นกว่า 4 หมื่นล้านบาท จากปัจจุบันอยู่ที่ 3.9 หมื่นล้านบาท ซึ่งการขยายขนาดมูลค่าสินทรัพย์ที่ต่อเนื่องจะทำให้พื้นที่เช่าของโรงงานและคลังสินค้าให้เช่าในกองเพิ่มเป็นกว่า 2 ล้าน ตร.ม. จากปัจจุบันอยู่ที่กว่า 1.76 ล้านตร.ม. ช่วยหนุนอัตราการจ่ายปันผลของกอง FTREIT ให้สูงขึ้นตามไปด้วย

ทั้งนี้ บริษัทวางแผนใช้งบลงทุนที่เหลืออีก 3 พันล้านบาท จากงบลงทุนทั้งปีรวม 5 พันล้านบาท ในการเข้าซื้อสินทรัพย์ในกลุ่มเฟรเซอร์ และสินทรัพย์นอกกลุ่ม เพื่อเข้ามาเสริมศักยภาพการดำเนินงาน FTREIT โดยแหล่งเงินทุนจะใช้เงินกู้จากสถาบันการเงิน

แต่อย่างไรก็ตาม ในปีนี้กอง REIT จะปรับสัดส่วนของเงินกู้ให้ลดลงมาอยู่ที่ 25% จากปัจจุบันเพิ่มขึ้นมาเป็น 29% ทำให้ความสามารถในการกู้ยืมลดลง ดังนั้น บริษัทจำเป็นต้องลดสัดส่วลง โดยบริษัทได้มีการขออนุมัติผู้ถือหุ้นออกหุ้นเพิ่มทุน 220 ล้านหุ้น ซึ่งคาดว่าจะระดมเงินเข้ามาได้กว่า 3 พันล้านบาท กระบวนการจะแล้วเสร็จภายในเดือน ม.ค.63 เพื่อนำเงินไปชำระคืนหนี้บางส่วน ทำให้บริษัทมีความสามารถในการกู้ยืมเพิ่มขึ้น และนำมาซื้อสินทรัพย์ได้ตามเป้าหมาย

นายพีระพัฒน์ กล่าวว่า บริษัทยังคงเดินหน้าเพิ่มอัตราการเช่าของสินทรัพย์ในกอง FTREIT ให้มากกว่า 85% ภายในปี 63 จากปัจจุบันอยู่ที่ 83% ส่วนหนึ่งมาจากการขยายสินทรัพย์ใหม่เข้ามา และการที่มีลูกค้าต่างชาติรายใหม่ๆที่สนใจเข้ามาเช่าพื้นที่เพิ่มเติม โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าจากจีนที่ได้รับผลกระทบจากสงครามการค้าทำให้ต้องย้ายฐานการผลิต ซึ่งประเทศไทยเป็นหนึ่งในปเป้าหมายที่ลูกค้าจีนให้ความสนใจ ปัจจุบันเข้ามาติดต่อขอเช่าพื้นที่โรงงานและคลังสินค้าหลายราย และคาดว่าสัดส่วนรายได้จากลูกค้าจีนในปี 63 จะเพิ่มขึ้นเป็นมากกว่า 2-3% ของรายได้รวมในปัจจุบัน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ