นายสมชาย ชุณหรัศมิ์ กรรมการผู้จัดการ บมจ. พรีเมียร์ มาร์เก็ตติ้ง (PM) เปิดเผยว่า บริษัทมีแผนจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ภายในเดือนเมษายนนี้ ใช้ชื่อหุ้นว่า “PM" อยู่ในหมวดธุรกิจอาหาร(Food) โดยจะเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนในครั้งแรก (IPO) จำนวน 215 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 150 ล้านหุ้น และเป็นหุ้นสามัญเดิมของบริษัท พรีเมียร?เพ็ท โพรดักส?จํากัด ที่นำมาเสนอขายจำนวน 65 ล้านหุน โดยมีบริษัท แอดไวเซอรี่ พลัส จํากัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และบล. บัวหลวง เป็นผู้จัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้น ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)
ปัจจุบันบริษัทมีทุนจดทะเบียน 650 ล้านบาท เรียกชําระแล้ว 500 ล้านบาท มูลค่าหุ้นตราไว้หุ้นละ 1 บาท หลังเสนอขายหุ้น IPO จะส่งผลให้บริษัทมีทุนจดทะเบียนและชำระแล้วเป็น 650 ล้านบาท โดยหุ้น IPO คิดเป็น 33.08% ของจํานวนหุ้นที่ออกและชําระแล้ว
สำหรับวัตถุประสงค์ในการใช้เงินจากการเสนอขายหุ้นในครั้งนี้ บริษัทจะนำเงินไปใช้เป็นเงินทุนในการดำเนินธุรกิจและชำระคืนเงินกู้ยืมเพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งของโครงสร้างทางการเงิน
บริษัทเป็นผู้จัดจําหน่ายและเป็นตัวแทนจําหน่ายสินค้าอุปโภคและบริโภคในประเทศ แบ่งเปน 5 กลุ่มผลิตภัณฑ?ได้แก?1) ผลิตภัณฑ?ขนมขบเคี้ยว ได้แก?ปลาสวรรค?ทาโร คาลบี้ ซีฟช แจกซ?บันบัน ชินมัย 2) ผลิตภัณฑ?อาหาร/เครื่องดื่ม ได้แก่ ซอสมะเขือเทศและซอสพริกคิงส?คิทเชน ผักและผลไมดองตราแมจินต?น้ำผลไม?และน้ำผลไม้อัดลมตรา Berri และ Sunblest 3) ลูกอม ได้แก่?โอเล? คอริฟิน-ซี 4) ผลิตภัณฑ?ยาอมและอาหารเสริม ได้แก? อุทัยทิพย์ และผลิตภัณฑดูแลสุขภาพตรากิเลน ลูกอมโบตัน ลูกอมวันวัน เม็ดอมโบตัน มิ้นท?บอล และ 5) ผลิตภัณฑ?ของใช้ส่วนตัวและของใช้ในครัวเรือน ได้แก? ผลิตภัณฑแป้ง สบู? สบู่เหลวเด็ก สบู?เหลว ล้างมือ ครีมอาบน้ำ ออยล? โลชั่น แชมพู สระผม ภายใต?ตราสินค้า Cussons, Imperial Leather, Carex, Pearl ,Premier, และ Que
ทั้งนี้ สินค้าที่บริษัทจัดจําหน่ายจะดำเนินการผ่าน 3 ช่องทางการจัดจําหน่าย ได้แก? ช่องทางการจําหน่ายแบบร้านค้าสมัยใหม?หรือโมเดิร์นเทรด ร้านค้าทั่วไป และหน่วยรถขาย ซึ่งมีเครือข่ายร้านค้าครอบคลุมกว่า 30,000 แห่งทั่วประเทศ โดยบริษัทมีสัดส่วนรายได้จากการจําหน่ายและเป็นตัวแทนจําหน่ายสินค้าประเภทขนมขบเคี้ยวมากที่สุด หรือประมาณ 80% ของรายได?ในกลุ่มนี้ของบริษัท อย่างไรก็ตาม บริษัทคาดการณ์ว่าตลาดขนมขบเคี้ยวของไทยในปีนี้มีแนวโน้มจะเติบโตกว่าปีที่แล้ว 9%
สำหรับธุรกิจผลิตอาหาร บริษัทมีบริษัทย่อย 3 แห่ง คือ บริษัท พรีเมียร์ แคนนิ่ง อินดัสตรี้ จำกัด ผลิตปลาทูน่าสำเร็จรูปและซอสพริก บริษัท พี.เอ็ม.ฟูด จำกัด (PMF) ผลิตขนมขบเคี้ยวปลาสวรรค์ทาโร และบริษัท พรีเมียร์ โฟรเซ่น โพรดักส์ จำกัด (PFP) ผลิตอาหารสำเร็จรูปแช่แข็งโดยมีกลยุทธ์ในการคัดเลือกผลิตภัณฑ์และคู่ค้าที่มีคุณภาพ และมุ่งเน้นขีดความสามารถในการพัฒนาผลิตภัณฑ์เป็นสำคัญ โดยที่ผลิตภัณฑ์ที่บริษัทคัดเลือกล้วนแล้วแต่เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพและให้คุณค่าทางอาหาร
สำหรับผลประกอบการปี 2549 บริษัทและบริษัทย่อยมีรายได้รวม 2,459 ล้านบาท กำไร 148 ล้านบาท สำหรับงวด 9 เดือนปี 2550 บริษัทและบริษัทย่อยมีรายได้รวม 2,037 ล้านบาท กำไร 166 ล้านบาท
--อินโฟเควสท์ โดย พรเพ็ญ ดวงเฉลิมวงศ์/รัชดา โทร.0-2253-5050 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--