บลจ.ยูโอบี เสนอขายกองทุนผสมตราสารหนี้-กองทุนอสังหาฯ-REIT ช่วง 22-29 พ.ย.

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday November 22, 2019 14:33 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นางสาวรัชดา ตั้งหะรัฐ กรรมการผู้จัดการ สายพัฒนาธุรกิจ บลจ.ยูโอบี (ประเทศไทย) หรือ UOBAM เปิดเผยว่า บลจ.ยูโอบี เปิดเสนอขายกองทุนเปิด บริลเลียนท์ พลัส ฟันด์"(BPLUS) เสนอขายหน่วยลงทุนครั้งแรก (IPO) วันที่ 22-29 พ.ย.62โดยเสนอขายผ่าน ธนาคารไทยพาณิชย์ บล.ไทยพาณิชย์ จำกัด และ บลจ. ยูโอบี (ประเทศไทย) มีให้เลือกทั้งกองประเภทที่มีการรับซื้อคืนหน่วยลงทุนแบบปกติ (BPLUS) และแบบรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติ (BPLUS-R) และหลังช่วง IPO กองทุน BPLUS สามารถซื้อขายได้ทุกวันทำการซื้อขายหน่วยลงทุน

กองทุนดังกล่าวมีทุนจดทะเบียน 20,000 ล้านบาท อัตราความเสี่ยงระดับกลาง (ระดับ 5) และไม่มีกำหนดเงินลงทุนขั้นต่ำ เป็นกองทุนเปิดประเภทกองทุนรวมผสมแบบ Fund of Funds ที่มีการจะกระจายการลงทุนในกองทุนทั้งในและต่างประเทศ และเป็นกองทุนรวมผสมที่ปัจจุบันคาดการณ์สัดส่วนการลงทุนส่วนใหญ่อยู่ในตราสารหนี้ที่มีคุณภาพทั่วโลกประมาณ 80% และอีก 20% ลงทุนในกองทุนอสังหาริมทรัพย์ (Property Fund) และ REITs เพื่อเพิ่มโอกาสรับผลตอบแทนสูงขึ้น

นางสาวรัชดา กล่าวว่า สำหรับการลงทุนในตราสารหนี้ สัดส่วนประมาณ 80% ประกอบด้วย การลงทุนผ่านกองทุนตราสารหนี้ต่างประเทศ 2 กองทุน ประกอบด้วย 1) กองทุน United SGD Fund (Class A-Acc USD (Hedged)) ในสัดส่วน 32.5% ซึ่งเป็นกองทุนที่จัดตั้งและบริหารจัดการโดย UOB Asset Management, ประเทศสิงคโปร์ โดยกองทุนจะเน้นลงทุนในตราสารหนี้ระยะสั้นและเงินฝากของสถาบันการเงิน ซึ่งกระจายการลงทุนในตราสารหนี้คุณภาพทั่วโลก โดยเฉพาะในเอเชียที่ให้อัตราผลตอบแทนที่ดี และมีการลงทุนในตราสารหนี้ในยุโรป สหรัฐอเมริกา และกลุ่มประเทศเกิดใหม่ โดยให้ผลตอบแทนนับจากนับจากเดือนมกราคม – กันยายน 2562 (Year to Date) 3.49% (ที่มา: UOBAM)

2) กองทุน Manulife Asia Pacific Investment Grade Bond Fund (Class A-Acc) ในสัดส่วน 32.5% บริหารงานโดย Manulife Investment (ประเทศสิงคโปร์) ซึ่งเน้นกระจายการลงทุนในตราสารหนี้ (ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก) คุณภาพระดับ Investment Grade และปรับเปลี่ยนระยะเวลาลงทุนได้อย่างยืดหยุ่นในกรอบ 1- 5 ปี เพื่อรับประโยชน์จากวัฎจักรอัตราดอกเบี้ยในแต่ละช่วง โดยให้ผลตอบแทนนับจากเดือนมกราคม – กันยายน 2562 (Year to Date) 6.27% (ที่มา: Manulife Investment)

ส่วนการลงทุนในกองทุนอสังหาริมทรัพย์และ REITs อีกประมาณ 20% ประกอบด้วย 1) การลงทุนใน กองทุน UBS (Lux) Real Estate Fund Selection-Global (class I-96 EUR Acc) ในสัดส่วนประมาณ 13% บริหารงานโดย UBS ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้จัดการกองทุนอสังหาริมทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยกองทุนนี้จะมีการกระจายการลงทุนไปยังกองทุนอสังหาริมทรัพย์ รวม 43 กองทุนทั่วโลก ซึ่งมีอสังหาริมทรัพย์ภายใต้การจัดการมากกว่า 5,000 โครงการ และมีที่มาจากรายได้ผู้เช่าในโครงการกว่า 20,000 ราย และ 2) การเข้าลงทุนใน กองทุนอสังหาริมทรัพย์ REITs และกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานในไทย โดยมี บลจ. ยูโอบี (ประเทศไทย) เป็นผู้บริหารจัดการ อีกประมาณ 7%

ทั้งนี้ กองทุนจะมีการลงทุนในตราสารหนี้เอกชนไทยที่มีคุณภาพ และพันธบัตรรัฐบาลไทยประมาณ 15% โดยสัดส่วนการลงทุนในกองทุนปลายทาง จะมีการปรับเปลี่ยนให้เหมาะสมกับภาวะตลาดในแต่ละขณะตามดุลยพินิจผู้จัดการกองทุน

กองทุน BPLUS มีนโยบายเน้นลงทุนในกองทุน CIS กองทุนโครงสร้างพื้นฐาน กองทุนอสังหาริมทรัพย์ กองทุน Private Equity หรือกองทุน ETF ทั้งใน และ/หรือ ต่างประเทศ ตั้งแต่ 2 กองทุนขึ้นไป โดยจะเข้าลงทุนในกองทุนปลายทาง เฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า 80% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน และในขณะเดียวกันจะลงทุนในต่างประเทศ เฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่เกิน 79% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน โดยส่วนของการลงทุนในต่างประเทศมีการป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจผู้จัดการกองทุน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ