หุ้น APP ปิดเทรดวันแรกที่ 3.04 บาท เพิ่มขึ้น 0.58 บาท (+23.58%) จากราคาขาย IPO 2.46 บาท/หุ้น มูลค่าซื้อขาย 714.32 ล้านบาท โดยเปิดตลาดที่ 2.90 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 3.06 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 2.82 บาท
บล.ทิสโก้ ระบุในบทวิเคราะห์ฯมองว่า ณ ราคา IPO ของบมจ.แอพพลิแคด (APP) ที่ 2.46 บาท คิดเป็น PER ที่ค่อนข้างต่ำเพียงประมาณ 10 เท่า แต่อย่างไรก็ตาม ด้วยแนวโน้มการชะลอตัวของเศรษฐกิจในระยะสั้นเป็นปัจจัยลบต่อราคาหุ้น และแนวโน้มค่าเงินบาทที่แข็งค่าในช่วงที่ผ่านมาทำให้ต้นทุนของ APP ลดลง
ราคาหุ้นของ APP ถือว่าไม่แพงเมื่อเทียบกับกลุ่ม mai(TECH) ที่มีกรอบ 9 – 38 เท่า อีกทั้งผลิตภัณฑ์ของ APP ยังมีความได้เปรียบคู่แข่งในด้านของราคา ทำให้มีความสามารถในการแข่งขัน และสิ่งพิมพ์ 3 มิติเป็นเทคโนโลยีที่มาได้ไม่นานมีโอกาสในการเติบโตสูง แต่อย่างไรก็ตาม ปัญหาการละเมิดลิขสิทธิ์ Software และการชะลอตัวของอุตสาหกรรมภาคการผลิตเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่กดดันการดำเนินงานของ APP
กลุ่ม APP ประกอบธุรกิจจัดจำหน่ายโซลูชั่นสำหรับการออกแบบ 3 มิติ และให้บริการที่เกี่ยวเนื่องอย่างครบวงจร โดยแบ่งเป็นธุรกิจ 1) จำหน่าย Software ประมาณ 40% ประกอบไปด้วย ซอฟต์แวร์สำหรับการออกแบบอุตสาหกรรม (Mechanical Solution: MEC) และ Add-on เฉพาะทางเช่นระบบไฟฟ้า, แผง PCB เป็นต้น ซอฟต์แวร์สำหรับการออกแบบสถาปัตยกรรมและการก่อสร้าง (Architecture Engineering & Construction : AEC) และ Add-on เฉพาะทาง 2) ธุรกิจจำหน่ายผลิตภัณฑ์ด้านการออกแบบ 3 มิติ เช่น เครื่องพิมพ์และสแกน 3 มิติ รวมไปถึงวัสดุที่เกี่ยวข้อง และ 3) การบริการที่เกี่ยวเนื่อง และการให้คำปรึกษา รวมไปถึงการฝึกอบรมโปรแกรม
โครงการในอนาคต บริษัทมีแผนที่จะนำเงินที่ได้จากการเพิ่มทุนมาซื้อเครื่องจักร, อุปกรณ์ในการพิมพ์ และสแกนงาน 3 มิติ เพื่อนำมาใช้สาธิตงานให้แก่ลูกค้า เพื่อขยายตลาดเครื่องพิมพ์ 3 มิติในอนาคต