นายรัฐชัย ธีระธนาวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม สายงานวาณิชธนกิจ-ด้านตลาดทุน บล.เคทีบี (ประเทศไทย) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย บมจ.เอสทีซี คอนกรีตโปรดัคท์ (STC) เปิดเผยว่า นักลงทุนให้ความสนใจจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) ของ STC เกินกว่าจำนวนที่จัดสรร 148,000,000 หุ้น ในช่วงเปิดจองซื้อระหว่างวันที่ 20-22 พ.ย.สะท้อนความเชื่อมั่นที่มีต่อปัจจัยพื้นฐานบริษัทที่แข็งแกร่งของ STC ทั้งศักยภาพการเติบโตและโอกาสในอนาคต
ประกอบกับ STC กำหนดราคา IPO ที่ 1 บาทต่อหุ้น คิดเป็นอัตราส่วนราคาหุ้นต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (P/E ratio) เท่ากับ 20.41 เท่า คำนวณจากผลประกอบการของบริษัทในรอบ 12 เดือนที่ผ่านมา ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.61 ถึงวันที่ 30 ก.ย.62 ถือเป็นระดับราคาที่เหมาะสมกับปัจจัยพื้นฐาน รวมทั้ง การเติบโตทั้งด้านรายได้และกำไรที่โดดเด่นตามนโยบายการลงทุนในโครงการ EEC จึงมั่นใจว่าหุ้น IPO ของ STC ที่จะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ‪ในวันที่ 29 พ.ย.62‬ นี้จะได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน‬‬‬
"ผมมั่นใจว่า STC จะเป็นอีกหุ้นเด่นที่นักลงทุนให้ความสนใจ ด้วยธุรกิจเข้าใจง่าย และมีโอกาสเติบโตสูง รับงานโปรเจ็กต์ของภาครัฐและเอกชน โดยเฉพาะโครงการ EEC ที่เริ่มเห็นความชัดเจนมาแล้ว 2 ปี นำร่องด้วยโครงการเมกะโปรเจคต์ และโครงการสาธรณูปโภคต่างๆ ทำให้มองว่า ภายหลังการเข้าจดทะเบียนในครั้งนี้ แผนขยายการเติบโตของ STC ในระยะ 3-5 ปีจากนี้จะคึกคัก และสนับสนุนผลประกอบการบริษัทให้เติบโตเพิ่มขึ้นอย่างน่าสนใจ เป็นอีกปัจจัยสนับสนุนให้การปิดจองซื้อหุ้นไอพีโอที่ผ่านมาประสบความสำเร็จได้อย่างน่าประทับใจ" นายรัฐชัย กล่าว
นายเอกชัย ชัยตระกูลทอง กรรมการผู้จัดการ STC เปิดเผยว่า การตอบรับที่ดีของนักลงทุนในครั้งนี้ สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นในพื้นฐานที่แข็งแกร่งของบริษัท และการเติบโตในอนาคต ธุรกิจมีแผนการดำเนินงานที่ชัดเจน หลังขยายกำลังการผลิตรอรับงานโครงการ EEC และงานโครงสร้างพื้นฐาน และสาธารณูปโภคในเมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี และขยายไปยังจังหวัดใกล้เคียงในภาคตะวันออก สนับสนุนผลประกอบการปี 2562 ให้เติบโตก้าวกระโดด และคาดว่าจะดีต่อเนื่องในระยะยาว
เงินที่ได้จากการระดมทุนในครั้งนี้หลังหักค่าใช้จ่ายต่างๆ ได้เงินประมาณ 141.30 ล้านบาท นำไปชำระคืนเงินกู้จากสถาบันการเงิน และ/หรือเป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินการของบริษัทฯ เพื่อเพิ่มศักยภาพธุรกิจให้แข็งแกร่งขึ้น พร้อมรับการขยายตัวของอุตสาหกรรมงานก่อสร้าง งานระบบระบายน้ำ งานนิคมอุตสาหกรรม และธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ในเมืองพัทยาและพื้นที่เชื่อมโยง จังหวัดชลบุรี และจังหวัดใกล้เคียงในเขตภาคตะวันออกที่กำลังขยายตัว
สำหรับผลประกอบการปีนี้ไตรมาส 3/62 แค่ไตรมาสเดียว กำไรสุทธิเติบโตสูงกว่าครึ่งปีแรกของปี 62
ขณะที่งบ 9 เดือนปี 62 เติบโตกว่าทั้งปี 61 โดยมีรายได้รวมอยู่ที่ 303.45 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.12% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 273.09 ล้านบาท กำไรขั้นต้น 25.05 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 35.27% กำไรสุทธิ 17.94 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 221.39% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน ขณะที่ อัตรากำไรขั้นต้นสูงขึ้นอยู่ที่ 31.78% จาก 27.54% ในช่วงเดียวกันของปีก่อน อัตรากำไรสุทธิสูงขึ้นอยู่ที่ 5.91% จาก 4.05% ตามลำดับ สะท้อนโอกาสจาก EEC
จุดเด่น STC ในเรื่องผลิตภัณฑ์คอนกรีตที่มีสินค้าหลากหลายที่สุด และได้อานิสงส์จากงานโครงการในเมืองพัทยา และการขับเคลื่อนโครงการในภาคตะวันออก (EEC) ปัจจุบันมีโรงงาน 4 แห่ง อยู่ในทำเลใจกลางเมืองพัทยา ทำให้ได้เปรียบในเรื่องระยะทางขนส่ง ต้นทุนการแข่งขัน และการนำเทคโนโลยีขั้นสูงมาใช้ในการผลิตท่อระบายน้ำคอนกรีตเสริมเหล็กและบ่อพักขนาดใหญ่ ซึ่งหาคู่แข่งได้น้อยราย ทำให้เราสามารถสร้างอัตรากำไรที่สูงขึ้น เมื่อเทียบกับอดีต