นายกิติชาญ ศิริสุขอาชา ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์รายย่อย บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้มีโอกาสที่จะปรับตัวขึ้นตามตลาดต่างประเทศ โดยตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่จะบวกกัน ยกเว้นตลาดหุ้นมาเลเซียที่ติดลบเล็กน้อยมากคงเป็นผลจากปัจจัยเฉพาะตัว ขณะที่ดาวโจนส์ และตลาดในยุโรปต่างก็ปรับตัวขึ้นกันเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา เนื่องจากมีความคืบหน้าเชิงบวกในประเด็นสงครามการค้า ภายหลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวว่า สหรัฐฯใกล้จะบรรลุข้อตกลงการค้าเฟสแรกกับจีนในไม่ช้านี้
นอกจากนี้ ราคาน้ำมันในตลาดฟิวเจอร์สเช้านี้ก็บวกอีกครั้ง ซึ่งจะน่าจะเป็น Sentiment บวกให้กับหุ้นในกลุ่มพลังงาน และปิโตรเคมี ส่วนบ้านเราก็ให้จับตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่จะมีเพิ่มเติมเข้ามาอีก และในวันที่ 26 พ.ย.นี้ให้ติดตามการปรับน้ำหนักลงทุนของ MSCI จะมีผลบังคับใช้
พร้อมให้แนวรับ 1,590 จุด ส่วนแนวต้าน 1,610 จุด
ประเด็นพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (22 พ.ย.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 27,875.62 จุด เพิ่มขึ้น 109.33 จุด (+0.39%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,110.29 จุด เพิ่มขึ้น 6.75 จุด (+0.22%) และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 8,519.88 จุด เพิ่มขึ้น 13.67 จุด (+0.16%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 179.97 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน เพิ่มขึ้น 0.32 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 278.27 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 24.01 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 15.18 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 16.04 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 1.76 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ ลดลง 37.11 จุด
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (22 พ.ย.62) 1,597.72 จุด เพิ่มขึ้น 5.86 จุด (+0.37%)
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1,467.95 ล้านบาท เมื่อวันที่ 22 พ.ย.62
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ธ.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (22 พ.ย.62) ปิดที่ 57.77 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 81 เซนต์ หรือ 1.4%
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (22 พ.ย.) อยู่ที่ -1.11 ดอลลาร์/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 30.21/22 ขานรับความหวังเจรจาการการค้าคืบหน้า มองกรอบวันนี้ 30.15-30.30
- "สนธิรัตน์" ลุยนโยบาย "บี10" หวังดันราคาปาล์มสูงยั่งยืน เร่งประสานทุกหน่วยงานบูรณาการ เร่งแผนเป็นรูปธรรมปี 2563 ด้านปตท.ขายทุกปั๊ม เล็งหารือบริษัทน้ำมันประกาศราคารับซื้อคงที่ 3 เดือน "พาณิชย์" คุมเข้มสกัด ลอบนำเข้า ขณะ ส.อ.ท.ชี้ราคาปาล์มต้องไม่สูงกว่าตลาดโลกเกิน 2 บาท
- "พลังงาน" เผยยอดใช้ บี7 ลดลง หลังรัฐเร่งกระตุ้นใช้ บี10 มั่นใจมาตรการส่งเสริมมาถูกทาง ดันยอดใช้ไบโอดีเซลพุ่ง 25% คาดปีหน้าดูดซับน้ำมัน 7 ล้านลิตรต่อวัน เล็งคลอดแผนหนุน ใช้ อี20 เป็นน้ำมันพื้นฐาน ธ.ค.นี้
- กสทช.เตรียมลงนามร่วมการท่าอากาศยานพร้อมติดตั้งระบบ 5G เป็นรายแรกในอาเซียน แซงหน้าเวียดนาม คาดเปิดใช้งานได้ภายในเดือน พ.ค. 63 จากนั้นขยายไปเปิดใน "อีอีซี" ด้านคณะกรรมการ 5G แห่งชาติ คาดเข้าครม.เพื่อพิจารณา 26 พ.ย.นี้
- คลังจ่อชง ครม.ขอไฟเขียวมอบของขวัญปีใหม่เพิ่มดันกระตุ้น ศก.ไตรมาส 4 เร่งด่วน เม็ดเงินกว่า 5 หมื่นล้านเล็งพักหนี้เงินต้นผู้กู้แบงก์ 1 ปี
- "สภาธุรกิจตลาดทุนไทย" เตรียมหารือ "คลัง" หวังเพิ่มวงเงินสิทธิลดหย่อนภาษีกองทุนใหม่ หลังมีกระแสข่าวว่าให้สิทธิลดหย่อนรวม "อาร์เอ็มเอฟ" ไม่เกิน 5 แสนบาท เหตุวัตถุประสงค์ลงทุนแตกต่างกัน พร้อมเห็นด้วยที่รัฐสนับสนุนการลงทุนระยะยาวในตลาดหุ้นไทย
- "ธปท." รับนโยบายดอกเบี้ยติดลบ ไม่ใช่ยาแรงเข็นเศรษฐกิจเหมือนอดีต เหตุดอกเบี้ยไทยต่ำอยู่แล้ว ห่วงสร้างปัญหาเสถียรภาพเศรษฐกิจ มองจีดีพีปีนี้โตต่ำกว่า 2.8% แน่นอน หลังพิษมาตรการกีดกันทางการค้ากระทบส่งออกไทยปีนี้โคม่า
- ส.อ.ท.เผยตัวเลขอุตสาหกรรมของขวัญส่อชะลอตัว 5% ตามเศรษฐกิจโลก ชี้ห้างร้านหั่นงบลงทุนบวกพฤติกรรมคนเปลี่ยนอวยพรผ่านเทคโนโลยีแทน
- อุตสาหกรรมไฟฟ้า-อิเล็กทรอนิกส์ก็ไม่รอด ประเมินส่งออกปีนี้หดตัว 3.24% จากสภาวะตลาดโลกชะลอตัว แนะพลิกวิกฤตสงครามการค้าสหรัฐ-จีน เป็นโอกาส เพราะผลสำรวจพบผู้ประกอบการทั้ง 2 ประเทศมีแนวโน้มย้ายฐานการผลิต หวังรัฐบาลเร่งเดินหน้าเจรจาดึงมาปักหลักในไทย
*หุ้นเด่นวันนี้
- SAWAD (กรุงศรี) "ซื้อ"เป้า Consensus 67 บาท กลุ่มไฟแนนซ์ยังได้ผลบวกจากทิศทางดอกเบี้ยขาลง (GDP ต่ำ, ค่าเงินบาทยังแข็ง มีลุ้นแบงก์ชาติลดดอกเบี้ยอีก) นอกจากนี้ SAWAD ยังเป็นอีก 1 หุ้นที่ได้รับเข้าคำนวณในดัชนี MSCI รอบใหม่เริ่มมีผลตั้งแต่ 26 พ.ย.62 คาดหนุนสัดส่วนการลงทุนจากองทุนและนักลงทุนต่างชาติเพิ่มขึ้น
- ASK (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 28 บาท ผู้บริหารตั้งเป้าสินเชื่อปี 2563 โตกว่า 10% สวนทางตลาดรถเชิงพาณิชย์ที่ชะลอ เพราะปีหน้ามีลูกค้ารถตู้โดยสารที่จะครบอายุการใช้งาน 1-2 พันราย ถ้าเปลี่ยนเป็นรถมินิบัส 50% คันละ 2 ลบ. จะได้สินเชื่อ 2 พันลบ. ผู้บริหารเชื่อว่า TFRS 9 ไม่กระทบ และไม่จำเป็นต้องเพิ่มทุนแม้ D/E ปีหน้าน่าจะเป็น 6.9 เท่า พร้อมคาดปันผล 1.7 บาท/หุ้น (yield 6.7%)