สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 2562 เลขาธิการ ก.ล.ต. ให้การต้อนรับผู้แทนโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (United Nations Development Programme: UNDP) ประจำประเทศไทย และทีมงาน UNDP ณ สำนักงาน ก.ล.ต. โดยยืนยันความพร้อมที่จะร่วมมือกับ UNDP ในการขับเคลื่อนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable development Goals หรือ SDG) ชูบทบาทสนับสนุนภาคธุรกิจคำนึงถึงสิทธิมนุษยชน
นางสาวรื่นวดี สุวรรณมงคล เลขาธิการ ก.ล.ต.ได้กล่าวกับนายเรอโนด์ เมแยร์ (Mr. Renaud Meyer) ผู้แทน UNDP ประจำประเทศไทย ซึ่งเริ่มปฏิบัติหน้าที่ในประเทศไทยตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม 2562 โดยยืนยันความพร้อมของ ก.ล.ต. ที่จะร่วมมือกับ UNDP ในการขับเคลื่อนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน ค.ศ. 2030 และดำเนินการตามแผนปฏิบัติการระดับชาติว่าด้วยธุรกิจกับสิทธิมนุษยชน (National Action Plan on Business and Human Rights) ระยะที่ 1 (พ.ศ. 2562 – 2565) ซึ่งจะช่วยเผยแพร่บทบาทของ ก.ล.ต. ในการส่งเสริมและสนับสนุนให้ภาคธุรกิจดำเนินกิจการโดยคำนึงถึงสิทธิมนุษยชนอย่างเป็นรูปธรรม และนำไปสู่การบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนให้เป็นที่รับรู้ในสายตานานาประเทศ
นอกจากนี้ เลขาธิการ ก.ล.ต. ยังได้กล่าวถึงการประชาสัมพันธ์งานวันที่ 2 ธันวาคม 2562 ซึ่งเป็นการเปิดตัวเครือข่ายเพื่อความยั่งยืนแห่งประเทศไทย (Thailand Responsible Business Network: TRBN) ซึ่งมี ก.ล.ต. สมาคมบริษัทจดทะเบียน และหน่วยงานพันธมิตรอีก 7 แห่ง ได้ร่วมก่อตั้ง โดยเป็นเครือข่ายภายใต้โครงการเสริมสร้างตลาดทุนธรรมาภิบาลเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสมหามงคลพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ซึ่งงานดังกล่าวได้รับเกียรติจากนายกรัฐมนตรีเป็นประธานเปิดงาน
ทั้งนี้ UNDP จัดตั้งสำนักงานในประเทศไทยขึ้น เมื่อปี 2509 โดยมีบทบาทสนับสนุนการพัฒนาประเทศและเสริมสร้างขีดความสามารถของหน่วยงานไทยในการขับเคลื่อนการดำเนินการตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน ผ่านการดำเนินโครงการต่าง ๆ อาทิ การลดความยากจน การท่องเที่ยวที่ยั่งยืน การอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพ การส่งเสริมความโปร่งใสในกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ และการส่งเสริมนวัตกรรมบริการภาครัฐ โดยมีแนวความคิดที่จะจัดทำแผนงานความร่วมมือในการขับเคลื่อนการดำเนินการตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนและหลักการชี้แนะว่าด้วยธุรกิจกับสิทธิมนุษยชนของสหประชาชาติ เป็นกรอบแนวทางในการทำงานร่วมกับ ก.ล.ต. ต่อไป