นายสมเกียรติ ปัทมมงคลชัย ผู้อำนวยการฝ่ายบัญชีและการเงิน บมจ.ทีทีดับบลิว (TTW) คาดว่ารายได้ในปี 62 จะเติบโตราว 2-3% จากปีก่อนที่มีรายได้ 6 พันล้านบาทเป็นไปตามการเติบโตของยอดขายน้ำประปาที่เติบโต 2-3% เช่นกัน ตามความต้องการใช้น้ำทั้งในภาคอุตสาหกรรมภาคครัวเรือนและภาคพาณิชยกรรม
ขณะที่ในปี 63 คาดว่ายอดขายน้ำยังเติบโต 2-3% ต่อเนื่องจากปีนี้ที่คาดไว้ที่ 8.55 แสนลูกบาศ์เมตร/วัน แต่คาดว่ารายได้มีอัตราการเติบโตต่ำกว่ายอดขาย เพราะราคาขายในปีหน้าจะปรับขึ้นได้ไม่มาก เนื่องจากการปรับราคาขายของบริษัทจะสอดคล้องกับดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ในช่วงปลายปี ซึ่งในเดือน ธ.ค.62 คาดว่า CPI จะเพิ่มขึ้นเพียง 0.5% ต่างกับ CPI เดือนธ.ค.61 ที่เพิ่มขึ้นราว 1%
อย่างไรก็ตาม คาดว่าในปี 63 บริษัทมีโอกาสได้รับผลกำไรจากกิจการของ บมจ.ซีเค พาวเวอร์ (CKP) มากกว่าปีนี้ โดยบริษัทถือหุ้นใน CKP ในสัดส่วน 25% เนื่องจาก CKP ได้เดินเครื่องโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำไซยะบุรีเมื่อวันที่ 29 ต.ค.62 และในปี 63 จะรับรู้เต็มปีจึงคาดว่ามีรายได้จากโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำไซยะบุรีราว 1.5 หมื่นล้านบาท
"ปีหน้าปริมาณขายน้ำโต 2-3% แต่ราคาขายโตได้น้อยกว่า ฉะนั้นยอดขายจะมีการเติบโตย้อยกว่าปริมาณขาย แต่ปีหน้าส่วนแบ่งกำไรจาก CKP น่าจะดีขึ้น"นายสมเกียรติ กล่าว
นายสมเกียรติ กล่าวว่า ในปี 63 บริษัทตั้งงบลงทุนจำนวน 300 ล้านบาทเพื่อใช้ปรับปรุงประสิทธิภาพและซ่อมบำรุงโรงผลิตน้ำประปาทั้งสองแห่งที่ปทุมธานีและนครปฐมเพื่อให้การผลิตทำได้ดีอย่างต่อเนื่อง เพราะไม่สามารถหยุดการผลิตได้ โดยปัจจุบันโรงผลิตน้ำประปาทั้งสองแห่งมีการใช้กำลังการผลิต 84% จากที่มีกำลังการผลิตสูงสุดรวมกัน 1.07 ล้านลูกบาศ์กเมตร/วัน คาดว่าจะใช้เวลา 5-6 ปี กว่าจะเต็มกำลังการผลิต
ทั้งนี้ โรงงานที่กระทุ่มแบนได้จัดพื้นที่รองรับการขยายกำลังการผลิตไว้ 4 แสนลูกบาศ์เมตร/วัน ซึ่งได้ลงทุนไปแล้ว 1 แสนลูกบาศ์กเมตร/วัน ยังเหลืออีก 3 แสนลูกบาศ์เมตร/วัน ซึ่งงบประมาณการลงทุน 1 พันล้านบาทต่อกำลังการผลิต 1 แสนลูกบาศ์กเมตร/วัน
นายสมเกียรติ กล่าวว่า บริษัทฯได้ชะลอการลงทุนในเมียนมา หลังจากได้เตรียมเข้าลงทุนที่เมาะลำไย เพราะรัฐบาลเมียนมายังไม่อนุญาต แต่บริษัทได้ทำ Business Model ไว้แล้ว หากรัฐบาลเมียนมาอนุญาตเมื่อใดก็จะเข้าลงทุนทันที ทั้งนี้ นอกจากความต้องการน้ำประปาในเมืองเมาะลำไยแล้วก็ยังมีเมืองเมียวดีและเมืองผาอันที่มีโอกาสเข้าไปดำเนินธุรกิจ เพราะเห็นโอกาสในเมียนมาดีมาก จากความต้องการใช้น้ำประปาสูง
ขณะที่การขยายธุรกิจในประเทศนั้น บริษัทฯ มองโอกาสการเข้าลงทุนในเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ทั้งธุรกิจการผลิตน้ำประปา และ ธุรกิจการบำบัดน้ำเสีย ขณะนี้รอให้รัฐบาลเปิดให้เอกชนยื่นเข้าดำเนินการก่อน
ส่วนสัญญาสัมปทานกับการประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) กับโรงงานผลิตน้ำประปาปทุมธานีที่จะครบสัญญาในปี 60 นั้น บริษัทจะได้รับสิทธิในการดำเนินการต่ออายุครั้งละ 10 ปี 2 ครั้ง ซึ่งยังไม่รู้ว่ารูปแบบการต่อสัญญาจะเป็นการเช่าทรัพย์สินเพื่อบริหาร หรือ ผลิตเพื่อขายซึ่งก็ยอมรับว่ามีความเป็นไปได้ที่ต้นทุนเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการเจรจา